ก.ล.ต. ผนึก 4 หน่วยงาน จัดสัมมนากรรมการตรวจสอบ เปิดตัวเพจ “บจ.เข้มแข็ง”
ก.ล.ต. ผนึก ตลาดหลักทรัพย์ฯ สภาวิชาชีพบัญชี IOD และ TLCA จัดสัมมนาย้ำบทบาทหน้าที่ของกรรมการตรวจสอบติดตาม-ดูแลบริษัทจดทะเบียน พร้อมเปิดตัวเว็บไซต์ย่อย “บริษัทจดทะเบียนเข้มแข็ง” เพื่อสร้างความเข้าใจและส่งเสริมการตระหนักรู้ในบทบาทหน้าที่
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สภาวิชาชีพบัญชี) สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (TLCA) จัดสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ “ความสำคัญของกรรมการตรวจสอบกับความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย” เพื่อเน้นย้ำบทบาทและหน้าที่ของกรรมการตรวจสอบ ซึ่งมีส่วนสำคัญยิ่งต่อความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทย เนื่องจากเป็นผู้ที่มีบทบาทหน้าที่ในการติดตามและดูแลให้บริษัทจดทะเบียนสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสโดยยึดประโยชน์ของบริษัทจดทะเบียนและผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งมีกรรมการตรวจสอบและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมสัมมนามากกว่า 1,300 คน
โดยงานสัมมนาครั้งนี้ มีการเสวนาในหัวข้อ “บทบาทของคณะกรรมการตรวจสอบและประเด็นให้ความสำคัญ” และ “การสอดส่องและติดตามการทำธุรกรรมของบริษัทจดทะเบียน” ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. ร่วมเสวนา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ มุมมอง และความรู้ โดยมีนางสาวจอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ ก.ล.ต. และนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกันกล่าวเปิดงาน
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้เปิดตัวเว็บเพจ หัวข้อ “บริษัทจดทะเบียนเข้มแข็ง” บนเว็บไซต์ ก.ล.ตwww.sec.or.th/StrengthenCG ซึ่ง ก.ล.ต. พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลและคลังความรู้ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียน เช่น คณะกรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน เลขานุการบริษัท นักลงทุนสัมพันธ์ ผู้สอบบัญชี และที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนได้สะดวกและสามารถนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการขับเคลื่อนตลาดทุนอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ งานสัมมนาอยู่ภายใต้โครงการ “บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์เข้มแข็ง” มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ และส่งเสริมให้บุคลากรของบริษัทจดทะเบียนตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเองซึ่งมีความสำคัญยิ่งต่อตลาดทุนไทย