STEC แย้ม Q4 สดใส ลุยประมูลงานรัฐ-เอกชน ตั้งเป้ารายได้ปี 67 แตะ 3 หมื่นล้าน

STEC ส่งซิกไตรมาส 4/66 สดใส จ่อยื่นประมูลงานใหม่ ตุนแบ็กล็อกแน่น 1 แสนล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปี 67 แตะ 3 หมื่นล้านบาท เดินหน้าคว้างานโปรเจ็กต์ใหม่กว่า 5 หมื่นล้านบาท พร้อมรุกธุรกิจ Recurring income หวังผลักดันผลประกอบการแกร่ง


นายศิว์วิศว์ อนันตกุล ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC เปิดเผยถึงภาพรวมผลประกอบการของบริษัทในงาน Opportunity Day  จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 66 ว่าแนวโน้มไตรมาส 4/2566 ปกติอยู่ในช่วงการส่งมอบงาน โดยมองว่ารายได้ก่อสร้างเติบโตดีกว่าไตรมาส 3/2566 แต่ต้นทุนก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน

ขณะที่ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) มีขนาดใหญ่อยู่ที่ 100,111 ล้านบาท โดยมาจากภาครัฐและเอกชน พร้อมโครงการที่มีศักยภาพอีกมากมาย ทั้งนี้บริษัทลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เช่น โครงการสัมปทาน (สายสีเหลือง และสีชมพู มอเตอร์เวย์ M6 และ M81 อู่ตะเภา) และพลังงานและศูนย์ข้อมูลที่สามารถสร้างรายได้ประจำ โดยรายได้ส่วนใหญ่จะยังคงมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนมีมูลค่าสัญญาทั้งหมด 260,319 ล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกอยู่ในช่วงระหว่างประมูล มีมูลค่าสัญญา 85,200 ล้านบาท และสายสีน้ำตาล มูลค่าสัญญา 41,720 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเสนอให้กับทางครม. ประมาณไตรมาส 1/2567 ส่วนสายสีแดงฝั่งธรรมศาสตร์-มหาชัย มูลค่า 6,468 ล้านบาท และศาลายา-หัวหมาก มูลค่า 15,364 ล้านบาท คาดว่าเปิดประมูลได้ภายในช่วงไตรมาส 1/2567

ทั้งนี้บริษัทยังมีรถไฟรางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มูลค่าสัญญา 29,748 ล้านบาท ได้รับอนุมัติจากครม.เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเปิดประมูลภายในช่วงไตรมาส 1/2567 ส่วนชุมทางจิระ-อุบลราชธานี มูลค่าสัญญา 37,527 ล้านบาท ยังอยู่ระหว่างเสนอกับทางรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ตั้งเป้าไว้มอเตอร์เวย์ โดยเฉพาะ M5-M8-M9 เตรียมเสนอให้กับคณะรัฐมนตรีประมาณครึ่งปี 2567

ทางด่วน N2 ช่วงประเสริฐมนูกิจ-วงแหวนรอบนอก มูลค่าสัญญา 16,960 ล้านบาท คาดการณ์จะเสนอให้กับครม. ภายในไตรมาส 1/2567 ซึ่งหลังจาก N2 ประมูลเสร็จ N1 ช่วงศรีรัตน์ งามวงศ์วาน – ประเสิรฐมนูกิจ มูลค่าสัญญา 36,000 ล้านบาท ก็จะตามมาเพราะเชื่อมโยงกัน

นอกจากนี้บริษัทเลือกลงทุนธุรกิจ Recurring income เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และความมั่นคงยั่งยืนให้กับบริษัท ที่จะสามารถผลักดันผลประกอบให้แข็งแกร่ง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2567 อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท

อนึ่ง บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 129.51 ล้านบาท ลดลง 6.36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 138.30 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 7,885 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.50% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 7,451 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มมอเตอร์เวย์และโรงไฟฟ้าต่างๆ

ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 454.14 ล้านบาท ลดลง 16.39% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 543.17 ล้านบาท

Back to top button