กนอ. วอนนายกฯ หารือ “กรมธนารักษ์” ลดค่าเช่าพื้นที่นิคมฯ หวังเพิ่มแรงจูงใจนักลงทุน

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เผยนายกฯ ตรวจเยี่ยมชมนิคมฯ สระแก้ว ที่ผ่านมา จับตา "กนอ." ขอนายกช่วยหารือกรมธนารักษ์ลดอัตราค่าเช่าดึงลงทุน หวังเพิ่มแรงจูงใจนักลงทุน


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้  (27 พ.ย. 66) น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เพื่อตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่าสระแก้วเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจอย่างมาก ทั้งนี้สำหรับนิคมอุตสาหกรรมสระแก้วมีเป้าหมายในการดำเนินงานเพื่อส่งเสริม พัฒนา และสร้างมูลค่าเพิ่มจากการแปรรูปสินค้าเกษตรรวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง

โดยยังเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าและกระจายสินค้าที่ครบวงจรสู่อาเซียน แต่การดำเนินงานที่ผ่านมายังมีปัญหาอุปสรรคในสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ซึ่งอัตราค่าเช่าที่ดินระยะยาวที่สูงและข้อจำกัดด้านอุตสาหกรรมเป้าหมายใน EIA ที่กำหนดไม่ให้มีปล่อง ซึ่งปัญหาเหล่านี้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบและมีนโยบายที่จะช่วยแก้ปัญหา เพื่อให้พื้นที่ที่มีศักยภาพนี้ เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้มากขึ้น ตามนโยบายที่รัฐบาลได้วางไว้

ขณะที่ นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่านิคมอุตสาหกรรมสระแก้วก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในปี 62 มีพื้นที่ 660 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่สาธารณูปโภค พื้นที่สีเขียว 64 ไร่ มีพื้นที่ขายเช่า 433 ไร่ อีกทั้งสามารถขายได้ 26 ไร่ ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนแล้ว 4 ราย คือ ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกเสื้อผ้า 3 ราย และอุตสาหกรรมทำเบาะรถชิ้นส่วนยานยนต์ 1 ราย ส่วนที่ยังไม่แจ้งประกอบกิจการอีก 2 ราย

ทั้งนี้การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสระแก้วมุ่งเน้นกิจการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว หรือ (EIA) ไม่อนุญาตให้โรงงานที่มีปล่องมาตั้งในนิคมฯ ได้ จึงส่งผลให้ประเภทอุตสาหกรรมที่สามารถตั้งได้มีจำกัด

ขณะที่ กนอ. มีแนวคิดที่จะดำเนินการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการนิคมอุตสาหกรรมสระแก้วต่อไป เพื่อแก้ปัญหาข้อจำกัดดังกล่าว นอกจากนี้ หากสามารถเปิดกว้างสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่ทุกประเภทกิจการที่มาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้วได้ จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัญหาอุปสรรคที่พบคือที่ดินราคาค่าเช่าสูงเพราะเป็นที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นผู้กำหนดค่าเช่า  ทั้งนี้ กนอ. จึงขอให้นายกรัฐมนตรีในฐานะ รมว.คลัง ช่วยเจรจากับกรมธนารักษ์เพื่อพิจารณาลดอัตราค่าเช่า อีกทั้งจูงใจนักลงทุนในพื้นที่

โดยล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้มีการหารือกับกรมธนารักษ์แล้ว คาดว่าจะทราบผลการหารือได้ในเร็วๆ นี้พร้อมกับย้ำ ว่านิคมอุตสาหกรรมสระแก้วมีความเหมาะสมที่จะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะจะช่วยดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังจะส่งผลให้เศรษฐกิจชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชากลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง รวมถึงเป็นการกระชับสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศให้กลับมาแน่นแฟ้นมากขึ้น

นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวยังสามารถเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้า และกระจายสินค้าที่ครบวงจรในกลุ่มประเทศอาเซียนในเขตภูมิภาคลุ่มน้ำโขง CLMVT เนื่องจากอยู่ใกล้กับด่านศุลกากรอรัญประเทศ (ป่าไร่) และด่านพรมแดนบ้านคลองลึกที่สามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศกัมพูชาได้

“โดยเชื่อว่าหากนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว สามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ได้สำเร็จ จะสามารถดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และสังคมในพื้นที่อย่างมาก” นายวีริศ กล่าว

Back to top button