BEM ลุ้นรายได้ปีนี้แตะ 1.7 หมื่นล. จับตาปี 67 ผู้โดยสาร MRT ทะลุ 4 แสนเที่ยวต่อวัน

นายธนวัฒน์ วรรณดิษฐ์ ผู้จัดการส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ว่า สถิติผู้ใช้ทางด่วนในไตรมาส 3/66 มีผู้ใช้บริการทางด่วนจำนวน 1.11 ล้านเที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีปริมาณการใช้เส้นทางที่เพิ่มขึ้นในทุกเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางด่วนศรีรัชที่มีการเชื่อมต่อกับสนามบินสุวรรณภูมิ ประกอบกับมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก ด้านรายได้ค่าผ่านทางเฉลี่ยอยู่ที่ 25.4 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้น 5% เทียบช่วงเดียวกันเป็นของปีก่อนตามปริมาณการใช้ทางด่วนที่เพิ่มขึ้น

ส่วนธุรกิจรถไฟฟ้าไตรมาส 3/66 ปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยสายสีน้ำเงินอยู่ที่ 410,590 เที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 31% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นมาจากการใช้ชีวิตของผู้ใช้บริการตามปกติ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นมาก และการส่งต่อผู้โดยสารสายสีเหลืองเข้ามายังสายสีน้ำเงินที่สถานีลาดพร้าว และในไตรมาสนี้มีปริมาณผู้โดยสาร New High อยู่ที่ 526,900 เที่ยวต่อวัน ในวันที่จัดงานไทยเที่ยวไทย ด้านรายได้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 11.10 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้น 31% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

โดยในไตรมาส 3/66 นี้บริษัทมีรายได้รวม 4,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยแบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจทางพิเศษสัดส่วน 51% ,ธุรกิจรถไฟฟ้า 37%, ธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ 6% และรายได้อื่นๆ 6% สำหรับกำไรสุทธิอยู่ที่ 970 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับฐานะการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 3/2566 บริษัทมีสินทรัพย์รวมที่ 112,850 ล้านบาท ด้านหนี้สินรวมอยู่ที่ 76,143 ล้านบาทลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1% ตามการชำระหนี้หุ้นกู้ระยะยาว และส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 36,707 ล้านบาท ด้านอัตราส่วนทางการเงิน Debt to Equity ไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1.69 เท่า ลดลงจากไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 1.96 เท่า

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2566 คาดการใช้บริการทางด่วนและรถไฟฟ้าต่ำกว่าไตรมาส 3/66 เล็กน้อยตามวันหยุดยาวในเดือนธันวาคม และเป็นช่วงคนทำงานเริ่มลาพักผ่อน ซึ่งเป็นช่วงปกติของไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าแนวโน้มปี 2566 จะเติบโตกว่าปี 2565 หลังจากงวด 9 เดือนแรก 2566 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 12,895 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 10,808 ล้านบาท และใกล้เคียงรายได้ทั้งปี 2565 อยู่ที่ 14,802 ล้านบาท ดังนั้นคาดว่ารายได้ปีนี้จะกลับไปใกล้เคียงกับทั้งปี 2562 ก่อนเกิดโควิดที่ระดับ 16,995 ล้านบาท

อีกทั้งคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการปี 2566 จะเติบโตตามจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและทางด่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเดือนตุลาคมการใช้บริการทางด่วนเฉลี่นอยู่ที่ 1.11 ล้านเที่ยวต่อวัน ในส่วนช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.12 ล้านเที่ยวต่อวัน ส่วนการใช้บริการรถไฟฟ้า 10 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 380,000 เที่ยวต่อวัน ดังนั้นตัวเลขผู้โดยสารทั้งปี 66 รถไฟฟ้าคาดเฉลี่ยอยู่ใกล้ๆประมาณ 380,000-390,000 เที่ยวต่อวัน

นายธนวัฒน์กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลประกอบการในปี 2567 คาดจะเห็นการเติบโตใกล้เคียงก่อนเกิดโควิดที่เคยทำได้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 ล้านเที่ยวต่อวัน โดยปัจจุบันการใช้ทางด่วนอยู่ที่ระดับ 90% เนื่องจากจำนวนนักนักท่องเที่ยวจีนมาไม่เต็ม 100% ต้องดูนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นทดแทนอีกครั้ง โดยคาดการบริการทางด่วนเติบโต 2-3% ส่วนการใช้บริการรถไฟฟ้าปี 2567 คาดเฉลี่ยจะเกิน 4 แสนเที่ยวต่อวันเติบโต 7-8% ดังนั้นปี 2567 จะเห็นการเติบโตกว่าปีนี้แน่นอน

ส่วนความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้มทางบริษัทพร้อมหลังชนะะประมูลมาตอนนี้รอเซ็นสัญญาและความพร้อมต่างๆจากทางภาครัฐคาดว่าให้ความชัดเจนภายในต้นปีหน้า เนื่องจากรอศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้เรียบร้อย จากนั้นทางคมนาคมก็จะน่าจะเดินหน้าตามแผนต่อไป

ด้านความคืบหน้าโครงการทางด่วนชั้นที่ 2 Double Deck ปัจจุบันโครงการดังกล่าวมีการทำ EIA เรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงการนี้บริษัทคาดเป็นผู้ลงทุนส่วนหนึ่งและต้องดูว่าภาครัฐและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) จะเจรจาในเรื่องขยายสัมปทาน โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 2/2567-ไตรมาส 3/2567 คาดจะมีการเสนอครม.

ส่วนแผนธุรกิจในอนาคตมีความสนใจหลายโครงการในอนาคต มองว่ารถไฟฟ้าสายสีส้มมาทางบริษัทคงต้องไปดูในเรื่องโครงการมอเตอร์เวย์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ M82 (บางขุนเทียน-เอกชัย), M7 ที่ไปพัทยา, M9 (บางขุนเทียน-บางบัวทอง) เป็นต้น