ก.ล.ต. ถกตลท. ทบทวน 3 เกณฑ์ สกัดหุ้นร้อน-ดึงความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย
ก.ล.ต. หารือตลาดหลักทรัพย์ฯ เร่งทบทวนเกณฑ์วางหลักประกันบัญชีเงินสด-ปรับระยะเวลาส่งมอบ T+2 รวมถึงมาตรการแคชบาลานซ์ และเกณฑ์ชำระค่าซื้อหุ้นล่วงหน้ากรณีหุ้นเข้าลักษณะร้อนแรง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเท่าเทียมระหว่างผู้ลงทุนในตลาดทุนไทย
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ และผู้บริหาร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. นำโดย ประชุมร่วมกับ นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ และผู้บริหาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้มีการหารือกันถึงแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทบทวนเกณฑ์การซื้อขายด้วยเงินสด (cash account) ในกรณีการวางหลักประกันก่อนซื้อหลักทรัพย์ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างผู้ลงทุนรายย่อยและนิติบุคคลต่างประเทศที่ชำระราคาซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านคัสโตเดียน ที่เป็นสมาชิกของสำนักหักบัญชี รวมทั้งจะพิจารณาปรับเกณฑ์ระยะเวลาส่งมอบหลักทรัพย์เป็นภายในวันที่ 2 ถัดจากวันขายหลักทรัพย์ (T+2) ให้เป็นเช่นเดียวกันสำหรับผู้ลงทุนทุกประเภท
รวมถึงจะพิจารณาทบทวนมาตรการให้ลูกค้าซื้อหลักทรัพย์ด้วยบัญชีแคชบาลานซ์ (cash balance) กรณีมีการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเกณฑ์และมาตรการดังกล่าวมีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ของตลาดในปัจจุบัน และมีความเป็นธรรมกับผู้ลงทุนแต่ละประเภท รวมถึงส่งเสริมและรักษาความมั่นคง ความมีประสิทธิภาพในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเร่งนำไปทบทวนเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องและนำมาเสนอต่อ ก.ล.ต. เพื่อพิจารณาและให้ความเห็นชอบต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงเรื่องการทบทวนแนวปฏิบัติสำหรับสมาชิกเมื่อลูกค้ามีธุรกรรมขายชอร์ตที่ออกโดยสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นด้วยกับการทบทวนดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน รวมทั้งเพื่อให้มีความชัดเจนและมั่นใจยิ่งขึ้นว่าบริษัทหลักทรัพย์มีแนวปฏิบัติที่ได้มาตรฐานสากล อันจะเป็นการป้องกันการกระทำที่ไม่ถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ