CPT ย้ำรายได้ปีนี้โต 10% หลังตุน “แบ็กล็อก” พันล้าน ลุยขยายฐานลูกค้า-จับมือพันธมิตรใหม่
CPT ย้ำเป้ารายได้ปี 66 โต 10% พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงเล็งจับมือพันธมิตรต่อยอดธุรกิจ บริหารจัดการความเสี่ยง ขณะที่ปัจจุบันตุนแบ็กล็อกเฉียด 1 พันล้านบาท เตรียมทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง
นายชัยยศ ปิยะวรรณรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPT ผู้ผลิตและจำหน่ายตู้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงให้บริการติดตั้งตู้ไฟฟ้า และก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย (115KV) เปิดเผยว่าแนวโน้มไตรมาส 4/2566 ทิศทางเติบโตดี เดินหน้าประมูลงานภาครัฐและภาคเอกชนต่อเนื่อง มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท โดยมองว่าทั้งปีจะสามารถประมูลงานอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท มีการส่งมอบงานต่อเนื่อง และสามารถทยอยรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมองว่างานประมูลภาครัฐยังคงมีน้อยลง เนื่องจากมีการเบิกงบประมาณของรัฐบาลล่าช้า ส่วนภาคเอกชนยังคงมีงานประมูลเข้ามาต่อเนื่องอยู่ในระดับที่ไม่ต่างกันมาก ทั้งนี้บริษัทจะมีการพัฒนาการเติบโตแบบ Inorganic Growth โดยตั้งเป้าหมายที่ตลาดรวม (Total Market) อยู่ที่ 20,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมเตรียมมองหาพาร์ทเนอร์ต่างๆ เข้ามา ซึ่งขณะนี้กำลังมีพาร์ทเนอร์อยู่ประมาณ 2-3 ราย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทและผลักดันธุรกิจเติบโตแข็งแกร่ง
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจปี 2566 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทปรับโครงสร้างการรับงานใหม่ที่มีคุณภาพ รวมถึงปรับโครงสร้างต้นทุน บริหารจัดการความเสี่ยง ตั้งแต่กระบวนการขายจนดำเนินโครงการแล้วเสร็จ เพื่อส่งมอบงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มความสามารถการแข่งขันได้ในระยะยาว ทั้งนี้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้จะเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 2566 ไม่ต่ำกว่า 10% และรักษาความสามารถการทำกำไรให้อยู่ในเกณฑ์ดี
นายชัยยศ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปัจจุบัน บริษัทมุ่งเน้นรักษาอัตราการเติบโตของธุรกิจ ขยายขอบเขตการรับงานและขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ โดยให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงไม่พึ่งพาฐานลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อาทิ โครงการพลังงานหมุนเวียนและสาธารณูปโภค, กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV), สถานีไฟฟ้าย่อย, พลังงานทดแทน, อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่หลากหลาย เพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก
รวมทั้งบริษัทยังมองหาโอกาสต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติม อาทิ การจับมือพันธมิตรทางธุรกิจที่มีโซลูชั่น ความร่วมมือในการใช้เทคโนโลยีระหว่างกัน รวมถึงการทำ Merger and Acquisition (M&A) ในกิจการที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ทางด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มความหลากหลายให้กลุ่มลูกค้า พร้อมปรับปรุงคุณภาพควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเป้ารายได้เติบโตปี 2566 ไม่ต่ำกว่า 10% ส่วนแนวโน้มปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 10% โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างหาพันธมิตรการค้า พร้อมจะมีการแตกไลน์ธุรกิจเพิ่มมากขึ้น
อนึ่ง ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 พลิกมีกำไรสุทธิ 12.23 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 21.50 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากการขายปรับตัวดีขึ้น จากมียอดขายที่เพิ่มขึ้น ลูกค้ารายเดิมมีการซื้อซ้ำและลูกค้ารายใหม่ซื้อเพิ่มขึ้น รวมถึงมีการส่งมอบงานให้ลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงรายได้จากการให้บริการรับเหมาและติดตั้ง