TKC พุ่งเป้าเบอร์ 1 “ธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน” ลุยประมูลงานเข้าพอร์ต 40% ดันรายได้โตปีละ 20%

นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC เปิดเผยว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานโค้งสุดท้ายของปีนี้ในไตรมาส 4/66 มั่นใจยังมีทิศทางที่ดีเป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้เดินหน้าสู่เป้าหมายรายได้เติบโตในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 20% จาก 8 กลุ่มธุรกิจของบริษัท และเดินหน้ากลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นที่ 1 ในธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน ครอบคลุมด้านโทรคมนาคมและไอซีที ต่อยอดธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต เช่น ระบบ Smart Solutions โดยมุ่งเน้น Smart Hospital, Smart Platform, Smart Logistics, Cyber Security, Smart Learning และ Smart Farming ที่เป็นโอกาสสร้างการเติบโตใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT ร่วมกับการสร้างและออกแบบเน็ตเวิร์ค และเซิร์ฟเวอร์มาเสริมสร้าง ประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และควบคุมคุณภาพในธุรกิจด้านต่างๆ ซึ่งในตอนนี้บริษัทมีการเซ็นสัญญารับงานกับลูกค้าเข้ามาบ้างแล้ว

โดยปัจจุบัน TKC มีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 3,200 ล้านบาท คาดจะรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 20% โดยตั้งเป้าความสามารถในการเข้าประมูลประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะเลือกเข้าร่วมประมูลโครงการที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ตั้งเป้าอย่างน้อยจะมีงานเข้ามาเติมพอร์ตประมาณ 30-40% ของการเข้าร่วมประมูล และในปี 66 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท จากธุรกิจหลักด้านโทรคมนาคมที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังมีการเข้าซื้อหุ้น บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ทำให้ TKC เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ใน AIT ในสัดส่วน 24.38% ทำให้บริษัท TKC มีโอกาสในการขยายธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจด้านโทรคมนาคม และไอซีที ให้เติบโตต่อเนื่องตามแผนที่ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจด้านนี้

อนึ่ง บริษัทรายงานผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/66 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 73.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 76.90% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 41.74 ล้านบาท มีรายได้รวม 943.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 399.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 73.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 544.71 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการ 9 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 202.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 162.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.11%

ขณะที่รายได้หลักในไตรมาส 3/66 มาจากรายได้จากงานโครงการ 633.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 308.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 94.98% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ที่ให้บริการออกแบบ จัดหา และติดตั้งงานระบบสื่อสารโทรคมนาคม ระบบความปลอดภัยของสาธารณะ และระบบบริการดิจิทัล ซึ่งเริ่มดำเนินงานในปี 2566 ขณะที่มีรายได้จากงานบริการวิศวกรรมและบำรุงรักษา 302.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.44 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 41.36% เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ที่ดำเนินการในปี 2566 ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากการให้บริการพัฒนาทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสู่สังคมดิจิทัล