GPSC ปลดล็อก “เก็คโค่วัน” คู่กรณีถอนฟ้องหมื่นล้าน
GPSC ตีปีก! โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน กล่อม AVRA สำเร็จ คู่สัญญายอมถอนฟ้องในชั้นอนุญาโตตุลาการแล้ว ส่งผลให้ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายกรณียกเลิกซื้อถ่านหิน 10,000 ล้านบาท “บล.กรุงศรี พัฒนสิน” มีมุมมองเชิงบวก ช่วยปลดล็อกความกังวลของตลาด แนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 4/66 ฟื้นตัว ส่วนปี 67 รับผลดีค่าไฟฟ้างวดม.ค.-เม.ย. ปรับขึ้นเกิน 3.99 บาทต่อหน่วย แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 65 บาท
นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า จากกรณีบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด หรือ เก็คโค่-วัน (GPSC เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินภายใต้โครงการ IPP กำลังการผลิต 660 เมกะวัตต์ ได้รับข้อเรียกร้องต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการของสภาหอการค้านานาชาติ (International Chamber of Commerce หรือ ICC) เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 นั้น
โดยผู้เรียกร้อง ซึ่งเป็นคู่สัญญาในการจัดหาถ่านหิน ภายใต้สัญญาซื้อขายและขนส่งถ่านหินกับเก็คโค่-วัน ฉบับลงวันที่ 28 กันยายน 2564 และวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 (Coal Supply and Transportation Agreements รวมเรียกว่า CSTAs) อ้างว่าเก็คโค่-วันผิดสัญญา CSTAs โดยยกเลิกการซื้อถ่านหิน ทำให้ผู้เรียกร้องได้รับความเสียหายจำนวนประมาณ 309 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ข้อพิพาทในชั้นอนุญาโตตุลาการระหว่างเก็คโค่-วันและ AVRA International DMCC (AVRA) ซึ่งเป็นผู้ขายถ่านหิน ตามหนังสือแจ้งข้อมูลข้อพิพาทที่สำคัญของบริษัทถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เลขที่ GPSC 23300075/132/66 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2566 (ข้อพิพาทอนุญาโตตุลาการ) บริษัทขอเรียนให้ทราบว่าข้อพิพาทอนุญาโตตุลาการดังกล่าวได้ยุติลงแล้ว ส่งผลให้เก็คโค่-วันจะไม่ต้องรับผิดใด ๆ ตามข้อเรียกร้องในข้อพิพาทอนุญาโตตุลาการ
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากกรณีข้อพิพาทอนุญาโตตุลาการฯ ระหว่างเก็คโค่-วัน (GPSC มีสัดส่วนลงทุนประมาณ 65%) และผู้เรียกร้อง AVRA ซึ่งเป็นคู่สัญญาในการจัดหาถ่านหิน ภายใต้สัญญาซื้อขายและขนส่งถ่านหิน (CSTAs) มูลค่าความเสียหายประมาณ 309 ล้านเหรียญสหรัฐ ว่าข้อพิพาทดังกล่าวได้ยุติลงแล้ว ซึ่งเก็คโค่-วันไม่ต้องรับผิดใด ๆ ตามข้อเรียกร้องในข้อพิพาทอนุญาโตตุลาการ
ทั้งนี้ มอง Positive ต่อข่าวการยุติข้อพิพาทระหว่างเก็คโค่-วันกับผู้ขายถ่านหิน (AVRA) เพราะถือเป็นการปลด overhang ความกังวลของตลาดต่อความไม่แน่นอนของค่าเสียหายที่ GPSC ต้องรับผิดชอบในอนาคตประมาณ 1 หมื่นล้านบาทไปได้ อีกทั้งค่าชดเชยตามสัญญาซื้อขายถ่านหิน (AVRA ยอมถอนฟ้องข้อพิพาทข้างต้น เพื่อมารับค่าชดเชยตามสัญญาฯ นี้แทน) ที่ GPSC ต้องชำระให้กับ AVRA (บริษัทยังไม่เปิดเผยจำนวน) โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. จะเป็นผู้รับภาระแทน (ตามเงื่อนไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้า) เนื่องจากเป็นผู้สั่งหยุดผลิตไฟฟ้า ไม่ได้กระทบต่อกำไรของ GPSC
ขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วันยังคงมีแหล่ง supply ถ่านหินจาก AVRA โดยเริ่มทำสัญญาใหม่ในปี 2567 ตามการเรียกผลิตไฟฟ้าของกฟผ. ทั้งนี้ประมาณการกำไร GPSC ไม่ได้รวมค่าเสียหายจากข้อพิพาทไว้ จึงไม่ได้มีผลกระทบต่อประมาณการ และถือเป็นความคืบหน้าตามคาด
สำหรับมุมมองกำไรปกติไตรมาส 4/2566 คาดฟื้นตัวเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพราะไม่มีปิดซ่อมนอกแผนของ GE5 ประมาณ 30 วัน เหมือนไตรมาส 4/2565 ขณะที่กำไรขายไฟฟ้า IU ฟื้นจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง และปริมาณขายไฟฟ้าเติบโตจากลูกค้าไม่มีปิดซ่อมใหญ่ ส่วนกำไรที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 เพราะกำไรจากการขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม หรือ IU ที่ลดลง จากค่าไฟฟ้า (ft) ที่ลดลงและไม่มีเงินคืนฯ รวมถึงส่วนแบ่งกำไรฯลด หลังโรงไฟฟ้าไซยะบุรีออกจาก high season
ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 65 บาทต่อหุ้น มองเมื่อค่าไฟฟ้างวดม.ค.-เม.ย. 2567 ชัดเจน ซึ่งมีแนวโน้มจะสูงกว่า 3.99 บาทต่อหน่วย จะถือเป็นการผ่านช่วงกดดันมากสุดของการแทรกแซงค่าไฟฟ้า และเข้าสู่ช่วงการฟื้นของ IU margin ในระยะยาว จากภาครัฐทยอยคืนค่าความพร้อมจ่ายให้กฟผ. ซึ่งมอง GPSC ที่มีปริมาณขายไฟฟ้า IU สูงที่สุดในกลุ่ม 40-48% เทียบกับบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM 28% และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF 9% จะได้ประโยชน์เด่น