โบรกแนะสอย 5 หุ้นเด่น รับยอดจอง “รถอีวี” งาน Motor Expo พุ่ง
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองงาน “Motor Expo” ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-5 ธ.ค.66 ได้รับความนิยมมาก หนุนยอดจองค่ายรถยนต์ EV ปรับตัวเพิ่มขึ้น มองบวกต่อกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนิคม และตัวแทนขายรถ และผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ได้แก่ WHA, COM7, ASAP, NYT และ SJWD
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ ยอดจองรถ EV ในงาน Motor Expo ครึ่งทางระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-5 ธ.ค.66 โดยงานจัดจนถึงวันที่ 11 ธ.ค.66 ได้รับความนิยมมาก โดย ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ เป็นประธานจัดงาน “Motor Expo 2023” เปิดเผยยอดจองรถยนต์มีจำนวน 22,461 คัน สูงกว่าปีก่อน 66.1% โดย Toyota ยังมียอดจองสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจ คือ ค่ายรถยนต์ EV ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนติดอยู่ 6 ใน 10 อันดับแรก ได้แก่ BYD อันดับ 2, AION อันดับ 4 (เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก), MG อันดับ 5, GWM อันดับ 6, Changan อันดับ 7 (เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก) และ NETA อันดับ 10
ทั้งนี้มองบวกต่อยอดจองรถ EV ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเราประเมินสัดส่วนยอดจอง EV ในงาน Motor Expo 2023 ในช่วงครึ่งทาง 29 พ.ย-5 ธ.ค.66 จะอยู่ที่ราว 45% ซึ่งจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงาน Motor Show 2023 ที่อยู่ที่ 21.5% และ Motor Expo 2022 ที่อยู่ที่ 15% ซึ่งเรามองว่า EV ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น หุ้นที่ได้ประโยชน์จากความต้องการรถ EV ที่เพิ่มขึ้น เรียงจากมากไปน้อย ได้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนิคม (WHA), ตัวแทนขายรถ EV (COM7 และ ASAP) และผู้ประกอบการ logistics รถ EV (NYT/SJWD) ซึ่งในกลุ่ม logistics จะได้ประโยชน์ช่วงสั้นจากการนำเข้า EV ที่เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ปี 67 ค่ายรถ EV จะเริ่มผลิตได้ในประเทศจะทำให้นำเข้า EV ลดลงได้
โดย บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA มองเป็นบวกต่อ presale ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต จากการเข้ามาลงทุนของ GAC (Top 3 ในจีน) ที่มีความชัดเจนมากขึ้น และจะสามารถรับรู้ presale ได้ในครึ่งแรกของปี 2567 จากยอดขายรถ GAC AION ที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ทาง GAC ได้ประกาศลงทุน 2.3 พันล้านบาท เพื่อตั้งโรงงาน เฟสแรก ในจังหวัดระยอง คาดแล้วเสร็จเดือน ก.ค. 2567 ที่กำลังการผลิต 5.0 หมื่นคัน/ปี โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท
ส่วน บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30 บาท และ บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP จะได้ผลบวกจากการเป็นผู้ประกอบการค้าปลีก หรือดีลเลอร์รถยนต์ EV อย่าง AION และ Changan ตามลำดับ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามเราคาดว่าจะต้องระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 1-2 ปี เพื่อที่จะคุ้มทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าเสื่อมราคาโชว์รูม และค่าใช้จ่ายพนักงาน
สำหรับ บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT ได้ผลบวกจากยอดจองรถ EV ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ จะช่วยให้ปริมาณรถยนต์ผ่านท่าเทียบเรือของ NYT ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยประเมินจะมีสัดส่วนการนำเข้ารถ EV ราว 7%-8% จากยอดส่งออกและนำเข้ารถยนต์ทั้งหมด โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.30 บาท
นอกจากนี้ บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD โดยมีสัดส่วนกำไรขั้นต้นราว 13% มาจากการส่งออก นำเข้ารถยนต์ (และคาดว่าจะมีกำไรขั้นต้นจากการนำเข้า EV ราว 6%-7%) ซึ่ง SJWD มีการรับงานให้บริการด้านโลจิสติกส์สำ หรับรถ EV เพิ่มขึ้น จากทุกค่ายรถ EV จากจีน โดยเฉพาะ BYD ที่จะเติบโตโดดเด่นสุด จากการเปิดขายรถรุ่นใหม่ SEAL โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18 บาท