“จีน” เปิดยอดส่งออก พ.ย. เพิ่ม 0.5% ครั้งแรกรอบ 6 เดือน
สำนักงานศุลกากรจีน เปิดยอดส่งออกเดือนพ.ย. จีนปรับตัวขึ้น 0.5% เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน อานิสงส์การค้าโลก-อุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์จีนฟื้นตัว ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวลง 0.6%
ผู้สื่อข่าวรายงาน (7 ธันวาคม 2566) อ้างอิง สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) ว่ายอดการส่งออกเดือนพฤษจิกายน มีการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ทั้งนี้บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอาจจะเริ่มได้ปัจจัยบวกจากการค้าโลกที่ฟื้นตัวขึ้น
อีกทั้งยอดส่งออกปรับตัวขึ้น 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ ที่คาดการณ์ว่าอาจจะลดลง 1.1% หลังจากที่ร่วงลง 6.4% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวลง 0.6% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 3.9% ซึ่งเป็นการดับความหวังว่าอุปสงค์ภายในประเทศจะฟื้นตัว
ทั้งนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนพฤษจิกายนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 6.839 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์รวมไปถึงดัชนี Baltic Dry Index ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการค้าโลกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีในเดือนพฤศจิกายน โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ
ขณะที่นักวิเคราะห์ กล่าวเพิ่มเติมว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจีนประกาศใช้เมื่อไม่นานมานี้จะมีประสิทธิภาพมากพอในการพลิกฟื้นอุปสงค์ให้แข็งแกร่งขึ้นได้หรือไม่เนื่องจากวิกฤตตลาดอสังหาริมทรัพย์รวมถึงอัตราว่างงานและภาคครัวเรือนที่อ่อนแอ ตลอดจนความเชื่อมั่นที่ถดถอยลงนั้น กำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจจีน
นอกจากนี้ในเดือนพฤศจิกายน 2566 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนสำหรับปี 2566 และ 2567 ขึ้นอีกปีละ 0.4% แต่เมื่อวันอังคาร (5 ธันวาคม 2566) “มูดี้ส์” ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีนลงสู่เชิงลบจากมีเสถียรภาพ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์และระดับหนี้สินของจีน