“ภูมิธรรม” เดินหน้าส่งเสริมอาชีพให้ปชช.ในพื้นที่ที่รัฐจัดให้ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
“ภูมิธรรม” เปิดสัมมนาการส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนในพื้นที่ที่รัฐจัดให้ (คทช.) กับนโยบายการค้าและสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นประธานเปิดงานโครงการสัมมนา “การส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนในพื้นที่ที่รัฐจัดให้ (คทช.) กับนโยบายการค้าและสิ่งแวดล้อม” จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) โดยมี นางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ให้การต้อนรับ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจต่อระเบียบการค้าและสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ คทช.และภาคีเครือข่าย ช่วยสร้างงาน-สร้างอาชีพ และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับประชาชนตามนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ประเทศไทย ยังเผชิญกับปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำอยู่ โดยเฉพาะที่ดินทํากิน ซึ่งเกษตรกรไทยจํานวนมากไม่มีที่ดินทํากินเป็นของตนเอง หรือทํากินบนที่ดินที่ไม่ได้รับการอนุญาตอย่างถูกกฎหมาย จนขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐด้านต่างๆ ประกอบกับต้องเผชิญกับความท้าทายจากการแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติต่างๆที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทําให้เกษตรกรไทยมีหนี้สินครัวเรือนเฉลี่ยกว่า 300,000 บาท รัฐบาลจึงเน้นนโยบายบริหารจัดการภาคเกษตรที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่ดิน น้ำ วัตถุดิบ แหล่งทุน และสิทธิทํากินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ดังนั้น การจัดงานส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนในพื้นที่ที่รัฐจัดให้ (คทช.)ฯ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ที่ดินในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และเป็นโอกาสดีที่ทําให้ประชาชนที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจากรัฐภายใต้นโยบายรัฐบาล (คทช.) ได้นําเสนอผลผลิตทางการเกษตรที่โดดเด่นของชุมชนให้เป็นที่รู้จัก
นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทําลายป่า (EUDR) ถือเป็นระเบียบการค้าใหม่ของสหภาพยุโรปที่มีผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตสินค้าและบริการในประเทศไทย จึงต้องให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลเรื่องนี้ไปเร่งเตรียมพร้อมรองรับมาตรการที่สหภาพยุโรปจะนํามาบังคับใช้ปลายปี 2567 เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรไทยจะสามารถส่งออกสินค้าควบคุมภายใต้ระเบียบดังกล่าวไปยังสหภาพยุโรปได้โดยสะดวก และไม่ถูกกีดกันทางการค้าในตลาดระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ในเบื้องต้นกำชับให้ สคทช. จัดทําตราสัญลักษณ์และเครื่องหมายผลิตภัณฑ์จากชุมชน คทช. เพื่อช่วยแสดงให้เห็นว่าสินค้าและผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาจากกระบวนการผลิตที่ไม่ทําลายป่าและถูกต้องตามกฎหมายของประเทศ รวมถึง การได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐอย่างถูกต้อง จะช่วยสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศและเป็นยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลให้ความสําคั ญโดยเฉพาะในยุคของเศรษฐกิจโลกแบบแบ่งขั้วที่มีการรวมกลุ่มทางการค้าต่างๆ จนเกิดการแข่งขัน มีข้อกําหนดที่หลากหลาย และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต จึงขอให้ทุกภาคส่วนของไทย โดยเฉพาะภาครัฐติดตามข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้มีความชัดเจนในกฎหมายลําดับรองที่เกี่ยวข้อง พร้อมประสานผู้ประกอบการและเกษตรกรในประเทศวางแผนรับมือและให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด