สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ธ.ค. 2566
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ธ.ค. 2566
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (13 ธ.ค.) โดยดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่เหนือระดับ 37,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมปิดที่ 37,090.24 จุด เพิ่มขึ้น 512.30 จุด หรือ +1.40%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,707.09 จุด เพิ่มขึ้น 63.39 จุด หรือ +1.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,733.96 จุด เพิ่มขึ้น 200.57 จุด หรือ +1.38%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (13 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายหุ้นเพื่อรอการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยและแนวโน้มนโยบายการเงิน ซึ่งประกาศหลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการไปแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 472.46 จุด ลดลง 0.26 จุด หรือ -0.06%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,548.44 จุด เพิ่มขึ้น 5.67 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,531.22 จุด ลดลง 12.33 จุด หรือ -0.16% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,766.05 จุด ลดลง 25.69 จุด หรือ -0.15%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยในวันพุธ (13 ธ.ค.) โดยเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวลงในเดือนต.ค. ขณะที่นักลงทุนรอการตัดสินใจกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังตลาดลอนดอนปิดทำการ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,548.44 จุด เพิ่มขึ้น 5.67 จุด หรือ +0.08%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (13 ธ.ค.) ขานรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีหน้า รวมทั้งข่าวเรือบรรทุกน้ำมันถูกโจมตีในทะเลแดง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการลำเลียงน้ำมันในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 69.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 74.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (13 ธ.ค.) ก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 4.10 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ 1,997.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 9.50 เซนต์ หรือ 0.41% ปิดที่ 22.921 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 8.90 ดอลลาร์ หรือ 0.96% ปิดที่ 922.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 13.10 ดอลลาร์ หรือ 1.33% ปิดที่ 969.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพธ (13 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.96% แตะที่ระดับ 102.8694
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 143.1550 เยน จากระดับ 145.6090 เยนในวันอังคาร (12 ธ.ค.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8694 ฟรังก์ จากระดับ 0.8757 ฟรังก์, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3499 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3595 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.2928 โครนา จากระดับ 10.4591 โครนา
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0886 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0790 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2621 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2563 ดอลลาร์