“ทองนิวยอร์ก” ปิดลบ 9.20 เหรียญ เซ่นดอลลาร์แข็งค่า

“สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดที่ 2,035.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 9.20 ดอลลาร์ โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น สกัดกั้นแรงซื้อทอง เพราะทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ๆ


สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดลบในวันศุกร์ (15 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นซึ่งสกัดกั้นแรงซื้อทอง เพราะทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ๆ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 9.20 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 2,035.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 23.20 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ 24.154 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 15.30 ดอลลาร์ หรือ 1.58% ปิดที่ 952.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 81 ดอลลาร์ หรือ 7.22% ปิดที่ 1,202.41 ดอลลาร์/ออนซ์

โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.58% สู่ระดับ 102.5523

ส่วนดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีในวันศุกร์ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะหารือเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เหมาะสมในการควบคุมเงินเฟ้อและทำให้เศรษฐกิจขยายตัว

ขณะที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างไร้ทิศทางในวันศุกร์ (15 ธ.ค.) โดยเฟดสาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ต่ำกว่าคาด โดยดัชนีภาคการผลิตดิ่งลงสู่ระดับ -14.5 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +2.0 จากระดับ +9.1 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก

ด้าน เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.0 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 50.7 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐ

นอกจากนี้ ดัชนี PMI ได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 49.4 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตอยู่ต่ำกว่าระดับ 50.0 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว

ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 50.8 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนี PMI ภาคบริการยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50.0 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคบริการมีการขยายตัว

นอกจากนี้ เฟดเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากลดลง 0.9% ในเดือนต.ค. โดยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภคการผลิตของภาคโรงงานและภาคเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ภาคสาธารณูปโภคลดลง 0.4%

Back to top button