รองเลขาฯ กสทช. ร้องวุฒิฯสอบคุณสมบัติ “หมอไห่” นั่งบอร์ด BBL ส่อหลุดตำแหน่ง “ประธาน”

ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ (18 ธันวาคม 2566) นายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทำหนังสือถึงประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการ กสทช. ว่ามีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 7ข (12)  และฝ่าฝืนตามมาตรา 8 และมาตรา 18 รวมทั้งมิได้ปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม 2553

พร้อมยื่นหลักฐานเอกสารเป็นรายงานประจำปีของ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งแสดงรายชื่อกรรมการของบริษัท ปรากฎว่ามีชื่อ นพ.สรณ นั่งเป็นกรรมการ ทั้งที่ได้รับคัดเลือกจากวุฒิสภาให้เป็นกรรมการ กสทช. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 ซึ่งการเป็นกรรมการของธนาคารกรุงเทพของ นพ.สรณ พบว่าเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ 26 สิงหาคม 2562 และลาออกเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565

ขณะที่เงื่อนไขในการลาออกหลังเข้ารับการสรรหา กฎหมายกำหนดไว้ว่า ผู้ได้รับคัดเลือกจาก สว. ให้เป็นประธาน กสทช. จะต้องลาออกจากตำแหน่งอื่นไม่เกิน 15 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่ง นพ.สรณ ยังได้รับการเสนอชื่อในที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีครั้งที่ 29 วันที่ 12 เมษายน 2565 ให้เป็นกรรมการธนาคารกรุงเทพอีกครั้ง นอกจากนี้ ปัจจุบันยังคงเป็นแพทย์สาขาวิชาโรคหัวใจ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

ล่าสุดมีรายงาน คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา ซึ่งมี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นประธาน กมธ. ได้มีมติเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 รับเรื่องไว้พิจารณา รวมถึงมอบหมายคณะอนุกรรมาธิการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสาร และการโทรคมนาคม เพื่อดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง รวมไปถึงรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นอีกทั้งมีกรอบระยะเวลาดำเนินการภายใน 60 วัน

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ กสทช. อยู่ระหว่างการสรรหาเลขาธิการที่ยืดเยื้อมานานแต่ยังหาข้อยุติไม่ได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นพ.สรณ ได้ตัดสิทธิผู้สมัครเลขาธิการ กสทช. 7 ราย จากทั้งหมด 8 ราย เว้นแต่นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. ซึ่งเป็นการใช้อำนาจประธาน กสทช. เพียงผู้เดียวในการตัดสินใจโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของบอร์ด กสทช. ทั้งคณะ

โดยก่อนหน้านี้ ประธาน กสทช. ไม่เซ็นยกเลิกคำสั่งตั้งนายไตรรัตน์ ซึ่งเป็นรักษาการเลขาธิการ กสทช. ทั้งที่บอร์ด กสทช.เสียงข้างมาก มีมติเมื่อ 9 มิถุนายน 2566 ให้นายไตรรัตน์พ้นจากตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. คงไว้แต่ตำแหน่งรองเลขา กสทช. หลังถูกตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าอาจกระทำความผิดกรณีสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสองรายการฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย รวมถึงไม่แต่งตั้งนายภูมิศิฐ์ รองเลขาธิการ กสทช. ขึ้นมารักษาการแทนด้วย