เตรียมหนาว! “ไทยตอนบน” อุณหภูมิลด 8 องศา 20-25 ธ.ค.66
“กรมอุตุนิยมวิทยา” ประกาศเตือนช่วง 22-25 ธ.ค. 66 ทั่วไทยอากาศหนาวบวกกับมีลมแรง ภาคเหนืออุณหภูมิลดสูงสุด 8 องศาฯ ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ระวังอันตรายจากระวังท่วมฉับพลัน-คลื่นซัดเข้าหาฝั่ง เรือเล็กไม่ควรออกจากฝั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (18 ธันวาคม 2566) กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย ฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-25 ธันวาคม 2566) ฉบับที่ 1 (307/2566) ระบุว่า ในช่วงวันที่ 20-25 ธันวาคม 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้
โดยลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาวบวกกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5-8 องศาเซลเซียส ภาคเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส
อีกทั้งในส่วนของภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 22-25 ธันวาคม 2566 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มเคลื่อนผ่านอ่าวไทยตอนล่างและประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 22-25 ธันวาคม 2566 โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร พร้อมทั้งยังขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย
อย่างก็ดีจึงเรียนขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ 24 ชั่วโมง