สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ธ.ค. 2566

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (18 ธ.ค.66) โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,306.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.86 จุด หรือ +0.002%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,740.56 จุด เพิ่มขึ้น 21.37 จุด หรือ +0.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,904.81 จุด เพิ่มขึ้น 90.89 จุด, +0.61%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (18 ธ.ค.66) หลังปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลง และความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้บดบังความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 475.32 จุด ลดลง 1.29 จุด หรือ -0.27%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,568.86 จุด ลดลง 28.05 จุด หรือ -0.37%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,650.55 จุด ลดลง 100.89 จุด หรือ -0.60% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,614.48จุด เพิ่มขึ้น 38.12 จุด หรือ +0.50%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (18 ธ.ค.66) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น และหุ้นโวดาโฟนปรับตัวขึ้นรับข่าวการควบรวมกิจการในอิตาลี

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,614.48จุด เพิ่มขึ้น 38.12 จุด หรือ +0.50%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (18 ธ.ค.66) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจได้รับผลกระทบจากการที่กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนก่อเหตุโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข่าวรัสเซียลดการส่งออกน้ำมัน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 72.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 77.95 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (18 ธ.ค.66) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาส 3/2566 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 2,040.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 4.70 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 24.107 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 954.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.00 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,199.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (18 ธ.ค.) โดยดอลลาร์ปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.01% แตะที่ระดับ 102.5625

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 142.8940 เยน จากระดับ 142.1810 เยนในวันศุกร์ (15 ธ.ค.) และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3393 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3369 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8685 ฟรังก์ จากระดับ 0.8699 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.2207 โครนา จากระดับ  10.2656 โครนา

ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0916 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0899 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2639 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2690 ดอลลาร์