ตลท.จี้ NUSA แจง 3 ประเด็นหลัก พบปมขายสินทรัพย์ 196 ล้าน เอี่ยวคนใกล้ชิดบอร์ด

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ขอให้ผ้ลูงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงิน บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA และติดตามคำชี้แจงของบริษัทกรณีงบการเงินไตรมาสที่ 3/66 ผู้สอบบัญชียังคงแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขเกี่ยวกับความซับซ้อนของการจัดโครงสร้างของผู้ขายโรงแรม สิทธิเครื่องหมายทางการค้า ใบอนุญาตต่างๆ ในประเทศเยอรมนี และมูลค่าเงินมัดจำ

สรุปข้อมูลและคำชี้แจงของ NUSA ดังนี้

1.การเปลี่ยนกรอบเวลากำหนดราคาซื้อขั้นสุดท้าย (ซื้อหุ้น PNCV) และการเลื่อนเปิดดำเนินการโรงแรมที่เยอรมนีตามที่เคยชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นครั้งที่ 3 มูลค่าเงินมัดจำ 711 ล้านบาท

1.1 ณ วันที่ 30 ก.ย.66 บริษัทจ่ายเงินมัดจำเพิ่มอีก 2 ล้านบาท รวม 711 ล้านบาท (96% ของมูลค่าซื้อสินทรัพย์)

1.2 เลื่อนการสรุปกรอบเวลาสรุปราคาซื้อสุดท้ายซึ่งเคยแจ้งว่าจะได้ข้อสรุปหลังจากได้รับรายงาน Due Diligence ซึ่งได้รับเมื่อ 14 พ.ย.66

1.3 วันที่ 30 พ.ย.66 แจ้งเลื่อนเปิดดำเนินการโรงแรมจากไตรมาส 4/66 เป็นภายในปี 67

2.การขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ยกแปลงให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบ (AC) มีมติไม่เห็นชอบการอนุมัติรายการดังกล่าวของคณะกรรมการบริษัท มูลค่ารายการ 196 ล้านบาท โดยเป็นที่ดินเปล่าและที่ดินพร้อมบ้าน Big Lot โครงการบ้านกฤษณา-พระราม 5 ให้บริษัท เอสเซน แอสเซท จำกัด ซึ่งมีนางสาวจิตตานันทิ์ พุทธิไตรสิน เป็นกรรมการ และเป็นน้องสาวต่างบิดาของ นางศิริญา เทพเจริญ กรรมการของ NUSA และเป็นภรรยาของ นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร

2.1 วันที่ 15 ก.ย.66 คณะกรรมการบริษัทมีมติขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ยกแปลงให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ตามราคาที่ตกลงกัน ได้รับเงินแล้ว 98 ล้านบาท (50%ของราคาขาย) ที่เหลือให้ชำระใน 18 เดือน โดยได้โอนกรรมสิทธิให้กับผู้ซื้อแล้ว

2.2 วันที่ 8 พ.ย.66 ที่ประชุม AC มีมติไม่เห็นชอบการอนุมัติรายการเนื่องจากเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ไม่ขออนุมัติ AC ให้ถูกต้องตามขั้นตอนและราคาขายอาจไม่สมเหตุสมผล ซึ่งผู้บริหารอยู่ระหว่างซื้อโครงการคืน

3.การกู้ยืมเงินจากกิจการอื่นโดยวางหลักทรัพย์ค้ำประกันเกินกว่ายอดเงินกู้ยืม 5 เท่า มูลค่ารายการ 30 ล้านบาท หลักทรัพย์ค้ำประกัน คือ หุ้นของ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO จำนวน 29.07 ล้านหุ้น (ณ วันที่ 30 ก.ย.66 มีมูลค่าสุทธิตามบัญชี 146 ล้านบาท)

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัทชี้แจง ดังนี้

1.กรอบเวลาในการกำหนดราคาซื้อหุ้น PNCV และการเปิดดำเนินธุรกิจโรงแรม รวมถึงผลกระทบจากการเลื่อนเปิดโรงแรมไปอีก 1 ปี

2.การขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ดำเนินการเป็นไปตามเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ข้อสรุปและกรอบเวลาที่ชัดเจนในการติดตามซื้อโครงการคืน

3.ความเหมาะสมของการวางเป็นหลักประกันเกินกว่ายอดเงินกู้ยืม 5 เท่าและเงื่อนไขสำคัญของสัญญากู้ยืม

4.ความเห็นของคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบต่อการดำเนินการต่างๆ ข้างต้น