สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 ธ.ค. 2566

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 9 ในวันอังคาร (19 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่เหนือระดับ 15,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,557.92 จุด เพิ่มขึ้น 251.90 จุด หรือ +0.68%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,768.37 จุด เพิ่มขึ้น 27.81 จุด หรือ +0.59% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,003.22 จุด เพิ่มขึ้น 98.03 จุด หรือ +0.66%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (19 ธ.ค.) ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลง หลังความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลงในยูโรโซน

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 477.04 จุด เพิ่มขึ้น 1.72 จุด หรือ +0.36%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,638.03 จุด เพิ่มขึ้น 23.55 จุด หรือ +0.31%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,574.67 จุด เพิ่มขึ้น 5.81 จุด หรือ +0.08% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,744.41 จุด เพิ่มขึ้น 93.86 จุด หรือ +0.56%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (19 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่าและโลหะอุตสาหกรรมซึ่งปรับตัวขึ้นตามราคาโลหะ และความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงช่วยหนุนตลาดด้วย

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,638.03 จุด เพิ่มขึ้น 23.55 จุด หรือ +0.31%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (19 ธ.ค.) โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจได้รับผลกระทบ หลังจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง ซึ่งทำให้การค้าทางทะเลเผชิญปัญหาติดขัด และส่งผลให้บริษัทเดินเรือหลายแห่งตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 97 เซนต์ หรือ 1.34% ปิดที่ 73.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 79.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (19 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 11.60 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 2,052.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 21.40 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 24.321 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 11.50 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ 965.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 41.50 หรือ 3.46% ปิดที่ 1,240.90 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (19 ธ.ค.) โดยดอลลาร์ปรับตัวลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.39% แตะที่ระดับ 102.1670

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 143.8960 เยน จากระดับ 142.8940 เยนในวันจันทร์ (18 ธ.ค.) แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8608 ฟรังก์ จากระดับ 0.8685 ฟรังก์, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3335 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3393 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.1683 โครนา จากระดับ 10.2207 โครนา

ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0976 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0916 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2723 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2639 ดอลลาร์