NRF ผนึก สยามเฮลท์ กรุ๊ป ดัน “ซอสศรีราชา“ แบรนด์ไทยติดเทรนด์โลก
NRF ผนึก สยามเฮลท์ กรุ๊ป เตรียมดัน “ซอสศรีราชา“ แบรนด์ไทยติดเทรนด์โลก ภายใต้ชื่อ “โอชา” หวังสร้างซอฟต์พาวเวอร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายภาครัฐ เล็งตั้งบริษัทร่วมทุนต้นปี 67 ฟาก “แดน ปฐมวาณิชย์” ย้ำรายได้ไตรมาส 4/66 ออลไทม์ไฮ ดันทั้งปีนี้โต 30%
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยว่า บริษัทผนึกกำลังกับบริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้า ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชสำอาง แบรนด์สมูท อี (Medical Skincare), ผลิตภัณฑ์เดนทิสเต้ (Oraceutical), ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม (Smooth Life), ร้านยา P&F Smooth Life และโรงงานยาสยามเมดิแคร์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ การทำการตลาดระดับโลก โดยเตรียมปั้นซอสพริกศรีราชาให้เป็น Global champion brand บุกตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมซอฟต์พาวเวอร์ซอสแบรนด์ไทยสู่ตลาดโลก สอดรับกับตลาดฮอตซอสที่มีมูลค่าตลาดกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยแผนการร่วมมือในครั้งนี้บริษัทจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกิจการร่วมค้า (Joint Venture) เพื่อร่วมกันบริหารและผลิตซอสศรีราชาที่ดีจากประเทศไปสู่ตลาดโลกภายใต้ชื่อแบรนด์ “โอชา” เบื้องต้นคาดว่าจะถือหุ้นบริษัทละ 50% และคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 1/2567 และทำการตลาดและวางจำหน่ายสินค้าได้เต็มรูปแบบภายในครึ่งแรกปี 2567 โดยปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตซอสพริกแบรนด์โอชา โดยตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2,200 ตันต่อเดือน โดยแผนดังกล่าวจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทภายในไตรมาส 1/67
โดยสินค้าดังกล่าวจะวางจำหน่านผ่านช่องทางออฟไลน์ 86% และ 14% เน้นขายออนไลน์ โดยเน้นจำหน่ายให้กลุ่มลูกค้าขายในตลาดอเมริกาเนื่องจากบริษัทมีแพลตฟอร์มอยู่แล้ว และร้านอาหารไทยทั่วโลก โดยบริษัทหวังมีมาร์เก็ตแชร์ของซอสพริกแบรนด์โอชาเป็น 1% จากสัดส่วนซอสพริกศรีราชา 13% และซอสพริกน้ำจิ้มไก่ 19% โดยตลาดซอสพริกอเมริกามีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านเภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม เฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ เกิดจากความตั้งใจที่จะช่วยกันผลักดันซอสพริกศรีราชาของคนไทยให้ดังไกลไปทั่วโลก ด้วยความพร้อมของ บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด ที่เชี่ยวชาญด้านการตลาด บวกกับความเชี่ยวชาญของ NRF จะสามารถสร้างและผลักดันแบรนด์ซอสพริกศรีราชาของคนไทย ให้เป็น Global Champion Brand และนับว่ายังสามารถสร้างเป็นซอฟพาวเวอร์ให้แก่ประเทศ อีกทั้งยังเป็นการช่วยเกษตรกรไทยให้มีรายได้จากการปลูกพริก ได้อีกด้วย”
นายแดน กล่าวอีกว่า NRF มีความเชี่ยวชาญในด้าน OEM ที่มีความเข้าใจลึกซึ้งในกระบวนการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอสินค้าคุณภาพสูงสุดและกระบวนการผลิตที่ทันสมัยในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ซอสและเครื่องแกงที่ตอบโจทย์ตลาดในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคนิคอาหาร การออกแบบ หรือความปลอดภัย และยังคงไว้ซึ่งรสชาติดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์สะท้อนความเป็นไทยแท้
นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ด้านการส่งออกไปต่างประเทศและมีความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ เรามีความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลก และสามารถปรับตัวให้เข้ากับแต่ละพื้นที่ที่เราเข้าไป มากไปกว่านั้นเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับตลาดใหม่ๆ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในนานาประเทศและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างครบวงจร เราไม่เพียงที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพให้ดีเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคทุกคน
ดังนั้นด้วยวิสัยทัศน์ของเราที่เน้นการสร้างความพึงพอใจและคุณภาพในผลิตภัณฑ์ การได้ร่วมมือกับทาง สยามเฮลท์ กรุ๊ป นับว่าเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดทางธุรกิจที่ครบวงจรและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีความเชี่ยวชาญในมีความเชี่ยวชาญด้านการตลาด มีการลงทุนธุรกิจหลายด้าน ที่พร้อมจะสร้างแบรนด์ให้มีการเติบโต เรามั่นใจว่าความร่วมมือนี้จะเป็นการนำเสนอซอสศรีราชาที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และเชื่อว่าความร่วมมือนี้จะเป็นความท้าทายและสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 คาดว่าจะออลไทม์ไฮ โดยคาดว่าธุรกิจค้าปลีกจะช่วยหนุน โดยเฉพาะการเข้าซื้อกิจการ Chuang lee Cash & Carry และ Seewoo China Town โดยทั้งสองเปิดแล้วกิจการละ 1 สาขา และบริษัทมีแผนเปิดแบรนด์ทั้งสองเพิ่มเป็น 30 สาขาภายใน 3 ปี (67-69) โดยมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโต 30% จากปีก่อน พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโต 30-50% โดยหลักเป็นรายได้ในธุรกิจค้าปลีกโดยจะเพิ่มขึ้นเป็น 21% จากเดิม 11% และการขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์ในช่วงไตรมาส 1/67 เพิ่มเป็น 4,000 ตันต่อเดือน หรือเติบโต 3 เท่า จากเดิม 1,800 ตันต่อเดือน