THCOM เปิดตัว สถานีดาวเทียม “LEO” แห่งแรกในไทย นำร่องอุตสาหกรรมทางทะเล
THCOM เปิดตัว สถานีดาวเทียมวงโคจรต่ำ “LEO” แห่งแรกในไทยและภูมิภาค CLMB พร้อมเปิดให้บริการม.ค. 67 ดันยอดขายแตะ 200 ล้าน นำร่องอุตสาหกรรมทางทะเล-ท่องเที่ยว ตั้งเป้า 3-5 ปี รายได้โต 30% ขณะที่ธุรกิจคาร์บอนเครดิต ได้ลงนามความร่วมมือกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง เพื่อสร้างประโยชน์ในการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคป่าไม้ คาดว่าจะให้ดำเนินงานปี 67
นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เปิดตัวสถานีดาวเทียม LEO ไทยคม-โกลบอลสตาร์ ซึ่งเป็นสถานีภาคพื้นดินเพื่อให้บริการระบบดาวเทียม Low Earth Orbit (LEO) Satellite Constellation แห่งแรกในประเทศไทย และภูมิภาค CLMB ตั้งอยู่ ณ สถานีบริการ ภาคพื้นดินไทยคม อําเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี โดยบริษัทได้ร่วมกับ บริษัท โกลบอลสตาร์ (Globalstar, Inc.) ผู้ให้บริการระดับโลกด้านการสื่อสารผ่านดาวเทียมและโซลูชัน IoT จากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อขยายโครงข่ายการสื่อสารผ่านดาวเทียมของโกลบอลสตาร์ให้ครอบคลุมมากขึ้น และมุ่งเน้นการให้บริการเชิงพาณิชย์จากระบบดาวเทียม LEO ในประเทศไทยและในระดับภูมิภาค โดยจะเปิดให้บริการในเดือนมกราคม ปี 2567 ซึ่งมีระยะสัญญา 10 ปี
รวมถึงอุตสาหกรรมทางทะเลในระดับภูมิภาค และพร้อมที่จะพัฒนาและคิดค้นบริการและโซลูชันอื่นๆ ให้ครอบคลุมในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ การให้บริการด้านความปลอดภัย การติดตามทรัพย์สิน และการบริการโซลูชันอุปกรณ์ IoT ซึ่งนับเป็นประโยชน์ในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งการให้บริการดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่มีการออกใบอนุญาตให้ดาวเทียมต่างชาติเข้ามาใช้ในประเทศไทยได้ โดยบริษัทได้ดำเนินงานตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้แล้ว
ทั้งนี้ ปัจจุบันโกลบอลสตาร์มีดาวเทียมที่โคจรอยู่ทั้งหมด 24 ดวง และจะเพิ่มเป็น 48 ดวงในอนาคต และทำการโคจรเกือบทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง ลักษณะเป็นการปล่อยสัญญาณแบบ Narrow Band ซึ่งเหมาะกับการใช้ในอุปกรณ์ IoT ขนาดเล็ก เหมาะกับการให้บริการด้านความปลอดภัย การติดตามทรัพย์สิน และการบริการโซลูชั่นอุปกรณ์ IoT ซึ่งนับเป็นประโยชน์ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การท่องเที่ยว การเดินเรือ ประมง เจ้าหน้าที่ป่าไม้และรัฐ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการป้องกันประเทศ โดยเฉพาะชาวประมงและนักท่องเที่ยวทะเล (Tourist Safety) สามารถบอกตำแหน่งเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ โดยส่งสัญญาณตรงจากดาวเทียมได้ แม้ว่าไม่มีสัญญาณเครือข่ายมือถือหรือตัวกลางใดๆ
ขณะที่บริษัทคาดการณ์ว่าผลงานทั้งปี 2566 เติบโตตามเป้าหมาย โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจหลักมาจากการให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (boardband) 40% และสัญญาณแพร่ภาพกระจายเสียง (boardcast) 60%
โดยการลงทุนสร้างสถานีดาวเทียมดังกล่าว โกลบอลสตาร์เป็นผู้ลงทุนโครงสร้างทั้งหมด และค่าเช่าพื้นที่ ทาง THCOM จะได้รายได้ในส่วนของค่าบริหารจัดการ และค่าซ่อมบำรุง รวมถึงเป็นตัวแทนการขายอุปกรณ์ และโซลูชั่น IoT THCOM ก็ได้รายได้จากส่วนแบ่งนี้ด้วย
สำหรับในปี 2567 บริษัทมั่นใจว่ารายได้ยังเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงจากการบริหารจัดการที่ดีของบริษัทในการให้บริการผ่านดาวเทียมทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องระหว่างรอการสร้างดาวเทียมไทยคม 10 โดยมีการขยายให้บริการไปยังดาวเทียมไทยคม 9 และดาวเทียมไทยคม 9A ปัจจุบันบริษัทมีกลุ่มลูกค้าหลักได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินเดีย และไทย
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าว่าจะขายอุปกรณ์ IoT ได้ประมาณ 10,000 เครื่องในปีหน้า จากค่าบริการรายเดือนเฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท/เครื่อง ทำให้คาดว่าสามารถสร้างรายได้ในส่วนนี้ประมาณ 200 ล้านบาทในปี 2567
สำหรับการให้บริการจากดาวเทียม LEO เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ขยายธุรกิจ Space Tech ในกลุ่ม Non-Geostationary Satellite Orbit (NGSO) ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ราว 10% ของบริษัท และมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 30% ใน 3-5 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ความร่วมมือสถานีเกตเวย์ภาคพื้นดินทําหน้าที่บริหารจัดการเครือข่ายดาวเทียม OneWeb ระหว่าง THCOM และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด(มหาชน) หรือ NT ภายใต้โครงการ “OneWeb Satellite Network Portal Site Hosting Services” ในบริเวณสถานีดาวเทียมสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นั้นก็คาดว่าจะมีความคืบหน้าในการเริ่มก่อสร้างสถานีฯปีหน้า
ด้านธุรกิจคาร์บอนเครดิต บริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง โดยไทยคมได้นำแพลตฟอร์มคาร์บอนเครดิตที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ประเมินปริมาณมวลชีวภาพในพื้นที่ป่าชุมชน ซึ่งมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกร่วมกับชุมชนอยู่ เพื่อให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น พร้อมต่อยอดไปใช้สร้างประโยชน์ในการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคป่าไม้ และตอกย้ำการดำเนินธุรกิจความยั่นยืนด้านสิ่งแวดล้อม สอดรับแนวคิด ESG ซึ่งคาดว่าจะให้ดำเนินงานปี 2567