KTMS รุกหนักโค้งท้ายผุด 2 สาขาใหม่ มั่นใจดันรายได้ปีนี้เข้าเป้า 500 ล้าน

นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS เปิดเผยว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 บริษัทฯ ยังเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ ซึ่งล่าสุดมีการเปิดสาขาหน่วยไตเทียมเพิ่ม 2 สาขา สาขาแรกตั้งอยู่ในโรงพยาบาลยโสธร 3 ที่ได้เริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2566 และสาขาที่ 2 ตั้งอยู่ในเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ มีการเปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งได้เป็นไปตามแผนต่อเนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้ที่เปิดให้บริการไปแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ต่อเนื่องจนถึงกลางปี 2566 เช่น โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, โรงพยาบาลพัทลุง, โรงพยาบาลสีชมพู และคลินิกเวชกรรมมุทิตาจิต

ขณะที่ในส่วนของบริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด (NEP) ที่ได้มีการดำเนินการเพิ่ม 2 สาขา อาทิ คลินิกเวชกรรมไตเทียม จังหวัดพิษณุโลก ช่วงวันที่ 6 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ขณะที่ คลินิกเวชกรรมไตเทียม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ระหว่างการเปิดให้บริการ  และได้มีการซื้อเครื่องไตเทียมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2566 มีเครื่องไตเทียมพร้อมให้บริการทั้งสิ้น 331 เครื่อง สามารถรองรับการให้บริการของบริษัทได้เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันบริษัทมีจำนวนผู้ป่วยเข้าใช้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม อยู่เฉลี่ยประมาณ 2,000 คน และคาดการณ์ว่าจะทยอยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนบริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ล่าสุดได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งระบบน้ำจากลูกค้าแล้ว 12 โครงการ มูลค่ารวม 8.55 ล้านบาท และบริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด ที่มีคำสั่งซื้องานติดตั้งท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์จากลูกค้าแล้ว 8 โครงการ มูลค่ารวม 9.99 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้ง คาดว่าแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4/2566 จากกลยุทธ์การลงทุนดังกล่าว ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ปี 2566 ของบริษัทมีโอกาสเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 500 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทยังมองเห็นการเติบโตของธุรกิจให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมว่ามีโอกาสเติบโตขึ้นตามจำนวนผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยพื้นที่ห่างไกล หรือต่างจังหวัด อีกทั้งบริษัทจะเร่งขยายศูนย์บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมให้เข้าใกล้ผู้ป่วยและลดการเดินทางของผู้ป่วยให้มากที่สุด

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขับเคลื่อนธุรกิจต่อจากนี้ โดยวางแผนการขยายสาขาเพิ่มขึ้น เพื่อกระจายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และทุกสถานที่ทั่วประเทศไทย เพื่อให้สอดรับกับจำนวนผู้ป่วยที่ต้องการเข้ารับการรักษาการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่มากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 28 แห่ง โดยแต่ละสาขาจะมีเตียงสำหรับให้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ 12-20 เตียงต่อสาขา ซึ่งสามารถรองรับจำนวนผู้ป่วยที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม จากการอ้างอิงตัวเลขสถิติจากกระทรวงสาธารณะสุข พบว่าผู้ป่วยโรคไตเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ15% ดังนั้น บริษัทจึงเล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตทางธุรกิจบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ทำให้บริษัทต้องเร่งเดินหน้าขยายสาขา เพื่อตอบโจทย์แต่ละสถานที่ในแต่ละจุดที่มีผู้ป่วยที่รอเข้ารับการรักษา ประกอบกับประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ยิ่งทำให้จำนวนผู้ป่วยในกลุ่มดังกล่าวทยอยเข้ารับการรักษาเพิ่มมากขึ้น