“ณณัฏฐ์” แจงเหตุเรือล่ม “เกาะเต่า” ไร้ผู้เสียชีวิต มั่นใจไม่กระทบท่องเที่ยวไทย

นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยเหตุเรือล่ม “เกาะเต่า” จากคลื่นลมแรง เรือไม่พร้อมรับสถานการณ์ ด้านนายกสั่งการดูแลใกล้ชิด เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือไร้สูญเสีย พร้อมตรวจเข้มเอกชนดูแลมาตรฐานปลอดภัย มั่นใจไม่กระทบท่องเที่ยวไทย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงกรณีอุบัติเหตุเรือโดยสารอับปางกลางทะเลอ่าวไทย ห่างจากเกาะเต่า 5.5 ไมล์ทะเล เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 ธ.ค.66 ที่ผ่านมาว่า เรือโดยสารลำเกิดเหตุคือ เรือ “ฑ.แสนดีมณีทรัพย์ ๑๑๑” เดินทางออกจากท่าเทียบเรือเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 23:00 น. ของวันที่ 21 ธ.ค.66 มีกำหนดถึงท่าเทียบเรือเกาะเต่า เวลา 05:00 น. ของวันที่ 22 ธ.ค.66 ถือเป็นเรื่องน่าเสียใจที่มีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นทั้งที่กรมเจ้าท่าได้ออกประกาศแจ้งเตือนระมัดระวังในการเดินทางแล้ว แต่ด้วยสภาพอากาศมีคลื่นลมแรง 2-3 เมตร จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้เรือไม่สามารถเข้าจอดท่าเทียบเรือได้ จึงลอยลำรออยู่หน้าหมู่เกาะอ่างทอง แต่ด้วยคลื่นลมที่มีกำลังแรงมากขึ้น ทำให้มีน้ำทะเลไหลเข้าทางท้ายเรือซึ่งไม่ได้ออกแบบมาเผชิญคลื่นสูงระดับนี้ได้ จนอับปางลง โดยเรือลำดังกล่าว มีผู้โดยสารและลูกเรือ เดินทางด้วยทั้งสิ้น 76 คน หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ไม่มีผู้เสียชีวิต

“ภายหลังได้รับรายงาน นายก เศรษฐา ทวีสิน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยว รวมถึงลูกเรือ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตทุกคนไว้ได้ ไม่มีความสูญเสีย เป็นสัญญาณที่ดีถึงความพร้อมในการทำงานของหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ“ นายณณัฏฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ จากรายงานที่ได้รับทราบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าดำเนินแผนการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเลในกรณีที่เกิดอุบัติภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค.66 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี เพิ่งเดินทางไปติดตามแผนซักซ้อมการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเลในกรณีที่เกิดอุบัติภัยที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัยทางทะเลทั้งหมดเข้าร่วมซักซ้อมแผนช่วยชีวิต ก็ไม่คิดว่า ภาครัฐจะได้ใช้ระบบและแผนงานที่ซักซ้อมมาในเวลาเพียงแค่ 3 สัปดาห์ถัดมา

ส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตนจะประสานงานกับทุกหน่วยงาน ให้เข้มงวดด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยในการท่องเที่ยว รณรงค์กับผู้ประกอบการเอกชน ให้เพิ่มความระมัดระวัง และมาตรฐานความปลอดภัยในการรองรับนักท่องเที่ยว และจะเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวต่อไป

“เหตุไม่คาดฝันเช่นนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด หลีกเลี่ยงป้องกันไว้ย่อมดีกว่า แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญคือ เรามีแผนงาน ระบบ บุคลากร ที่มีความพร้อมแค่ไหนในการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที จากเหตุการณ์ครั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เชื่อมั่นว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยในภาพรวมอย่างแน่นอน” นายณณัฏฐ์ กล่าว

Back to top button