โบรกแนะสอย 10 หุ้นเด่นรับ “นโยบายรัฐ” ปี 67
โบรกฯ แนะกลยุทธ์ลงทุนตลาดหุ้นไทยปี 67 ชะลอตัวลงจากผลกระทบจากนโยบายการเงินที่ตึงตัว มอง “เศรษฐาโณมิกส์” ช่วงครึ่งหลังปี 67 หนุน GDP โตแกร่ง มีมุมมองบวกต่อ 10 หุ้นได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลปี 67
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วานนี้ (26 ธ.ค.66) ประเมินภาพกลยุทธ์การลงทุน ตลาดหุ้นไทย มอง Goldilocks และ Fed pivot เป็นแรงหนุนหลักต่อตลาดในปี 67 แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี 67 จะชะลอตัวลงจากผลกระทบจากนโยบายการเงินที่ตึงตัว แต่คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะทรงตัวได้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตดีกว่าคาด ทั้งภาคบริการและตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้เกิดความหวังในการเกิดภาพ Soft landing ได้
ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงต่อเนื่องในหลายประเทศ (หรือใกล้เคียง) เป้าหมายสำหรับปี 66 (และภายในปี 67 สำหรับสหรัฐและยุโรป) เชื่อว่าได้ผ่านรอบดอกเบี้ยขาขึ้นไปแล้ว และคาดการณ์เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 2/67 ทั้งนี้หากเศรษฐกิจโลกไม่ชะลอรุนแรง (Soft landing) โดยคาดการณ์ว่าบอนด์ยีลด์จะลดลงหนุนภาพการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงตลอดปี 67
“เศรษฐาโณมิกส์” (Sretthanomics) จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 67 การท่องเที่ยวและการบริโภคจะหนุนการเติบโตของ GDP ไทยในไตรมาส 4/66 จนถึงครึ่งแรกของปี 67 จากนั้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะเข้ามามีบทบาทในครึ่งหลังของปี 67 ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 66 คาดการณ์อยู่ที่ 28 ล้านคน และในปี 67 คาดการณ์อยู่ที่ 35 ล้านคน
รวมถึงการเติบโตของรายได้เกษตรกร ได้รับแรงหนุนจากผลกระทบ เอลนีโญ น่าจะช่วยหนุนการบริโภคภายในประเทศในครึ่งแรกของปี 2567 และการส่งออกสินค้ามีแนวโน้มการเติบโตแม้จะมาจากฐานไตรมาส 4/66 ถึงครึ่งแรกของปี 66 ที่ต่ำทำให้ GDP ปี 66 ขยายตัวได้ 2.3% เมื่อมองครึ่งหลังของปี 67 แม้แรงส่งทางเศรษฐกิจจากการฟื้นตัวหลังโควิดจะเริ่มแผ่ว โดยคาดการณ์ว่ามาตรการกระตุ้นของภาครัฐจะช่วยกระตุ้นการเติบโตหลังจากผ่านงบประมาณปี 67 ซึ่งมองในไตรมาส 2/67 จะมีการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทที่วางแผนไว้จะช่วยกระตุ้นการบริโภค ในขณะที่โครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐจะเพิ่มการลงทุนใหม่อย่างมีนัย ส่งผลให้ GDP ปี 2567 เติบโตอยู่ที่ 3.4%
สำหรับธีมการลงทุนและโอกาสในปี 67
ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยชอบ 1) กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว (โรงแรม การขนส่ง) 2) ผู้ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล (กลุ่มการเงินจากอัตราดอกเบี้ยที่พีค และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Decarbonization และ Digitalization), 3) ผลกระทบต่อปรากฏการณ์เอลนีโญ (ธุรกิจเนื้อสัตว์ โรงไฟฟ้า ผู้ค้าปลีกเครื่องดื่ม) และ 4) กำไร/เงินปันผลที่ดี (เช่น กลุ่มที่คาดการณ์ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เช่น กลุ่มเคมีภัณฑ์และเกษตร, ผู้นำการเติบโตไตรมาส 4/2566 เช่น กลุ่มบรรจุภัณฑ์และกำไรไฮซีซั่นในไตรมาส 1/2567 อย่าง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง)
ส่วนความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ 1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าที่คาด 2) นโยบายของรัฐบาลไทยที่ไม่มีประสิทธิภาพ 3) อัตราเงินเฟ้อ 4) ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และ 5) บอนด์ยีลด์ที่พุ่งสูงขึ้น
สำหรับภาพรวมกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากแต่ละนโยบายหลักของรัฐบาล
การส่งเสริมและการบริโภค มีมุมมองต่อนโยบายเอกสารประกอบคำบรรยายดิจิทัล เงินอุดหนุนการเกษตร ดีเซลและเบนซิน เงินอุดหนุน การขึ้นค่าจ้าง มองบวกต่อผู้ได้รับประโยชน์ ได้แก่ พาณิชย์ (บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM) และการเงิน (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR) ขณะที่ท่องเที่ยว (บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW) ส่วนขนส่ง (บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM)
สำหรับข้อเสีย ต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นสำหรับธุรกิจ รวมถึงการพิจารณาสินเชื่ออุปโภคบริโภคที่เป็นไปได้อัตราดอกเบี้ย
การหนุนค้าขายและการลงทุน คาดการณ์นโยบายรถไฟความเร็วสูงและโครงการทางคู่สายแลนด์บริดจ์ (ภาคใต้ระเบียงเศรษฐกิจ) จะได้รับประโยชน์จากผู้ถือหุ้นรับเหมา ได้แก่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC, บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK
ส่วนข้อเสีย อาจขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้นกีดกันการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และความล่าช้าเนื่องจากการทบทวนที่รอดำเนินการโครงการ/แต่สามารถลดการลงทุนได้ค่าใช้จ่ายหากกระบวนการประมูลที่เข้มงวดมากขึ้นถูกนำไปใช้
การส่งเสริมสีเขียวและการแปลงเป็นดิจิทัลนโยบาย คาดการณ์นโยบายเงินอุดหนุนรถโดยสารไฟฟ้า และการนำระบบดิจิทัลมาใช้ในทุกสาขา เช่น การศึกษา, บริการของรัฐบาล, และการดูแลสุขภาพ มองบวกเกี่ยวกับเรื่อง EV และการรักษ์โลก รวมถึงเทคโนโลยี และที่ปรึกษาด้านเทคนิค จะได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะหุ้น บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF