ผิดหวัง! “ไอพีโอ” ปี 66 เทรดวันแรก “หลุดจอง” เพียบ 20 ตัว

ส่องหุ้น IPO หลังไหลเข้าซื้อขายทั้งตลาด SET และ mai ในปี 2566 รวม 40 ตัว วันแรกเหนือจอง 20 ตัว ขณะที่หลุดจอง 20 ตัว ส่วนหลังจากเข้ามาตลาดรองถึงปัจจุบันราคาหุ้นกลับต่ำกว่าไอพีโอมากถึง 27 ตัว แต่ตัวที่ราคาบวกได้เสมอมา COCOCO-READY-JPARK-GFC-TRP-MASTERBVG


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลบริษัทเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering) หรือ IPO ในปี 2566 พบว่าทั้งปีมีจำนวนหุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิ้น 40 บริษัทแบ่งเป็นหุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลาดแห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 20 บริษัท และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 20 บริษัท

สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาด SET จำนวน 20 บริษัท มีมูลค่าระดมทุนรวม 28,081.47 ล้านบาท และมูลค่าเสนอขายรวม 32,521.79 ล้านบาท ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งหมด 125,629.59 ล้านบาท

ประกอบด้วย บริษัท พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช จำกัด (มหาชน) หรือ PQS, บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ CHASE, บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR, บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC, บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE, บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC, บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG, บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG, บริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP, บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO

บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO, บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV, บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TAN, บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ WINDOW, บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN, บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM, บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL, บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SAFE, บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI และ บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD ตามตารางประกอบ ดังนี้

ทั้งนี้หุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลาด SET โดยเทรดวันแรกปิดเหนือจองจำนวน 6 บริษัท ได้แก่ PSP ปรับตัวขึ้น 61.29% มาที่ระดับ 10 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 6.20 บาท, COCOCO ปรับตัวขึ้น 43.64% มาที่ระดับ 7.90 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 5.50 บาท, PRTR ปรับตัวขึ้น 40.28% มาที่ระดับ 10.10 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 7.20 บาท, SINO ปรับตัวขึ้น 37.86% มาที่ระดับ 1.93 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 1.40 บาท, MGC ปรับตัวขึ้น 11.95% มาที่ระดับ 8.90 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 7.95 บาท, CHASE ปรับตัวขึ้น 3.45% มาที่ระดับ 3 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 2.90 บาท

ส่วนบริษัทที่ราคาหุ้นปิดวันแรกหลุดจองจำนวน 14 บริษัท ได้แก่ BLC ลดลง 31.43%, PQS ลดลง 4.17%, PHG ลดลง 22.38%, WINDOW ลดลง 39.52% , GABLE ลดลง 6.10% , ORN ลดลง 26.85% , TAN ลดลง 0.61%, SAV ลดลง 19.47%, SCGD ลดลง 14.78%, SAFE ลดลง 15.24%, NAM ลดลง 13.64%, FTL ลดลง 22.63% , KCG ลดลง 5.14% และ ANI ลดลง 5.14%

นอกจากนั้น หลังจากเข้ามาซื้อขายตลาดรองวันแรกจนถึงปัจจุบันวันที่ 28 ธันวาคม 2566 พบว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นคงเหลือ 4 บริษัท ได้แก่ COCOCO ปรับตัวขึ้น 43.64% มาที่ระดับ 7.90 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 5.50 บาท,  ANI ปรับตัวขึ้น 13.33% มาที่ระดับ 5.95 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 5.25 บาท,  SINO ปรับตัวขึ้น 10.71% มาที่ระดับ 1.55 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 1.40 บาท, KCG ปรับตัวขึ้น 4.71% มาที่ระดับ 8.90 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 5.50 บาท

ขณะที่อีก 16 บริษัท ราคาหุ้นก็ยังคงต่ำจองจากราคาไอพีโอ คือ ETL, NAM, SAFE, SCGD, SAV, TAN, PRTR, PSP, MGC, ORN, GABLE, WINDOW, CHASE, PHG, PQS และ BLC

ส่วนบริษัทจดทะเบียนในตลาด mai ปี 2566 มีจำนวน 20 บริษัท โดยมีมูลค่าระดมทุนรวมอยู่ที่ 10,178.02 ล้านบาท และมูลค่าเสนอขายรวมอยู่ที่ 12,784.40 ล้านบาท ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งหมด 48,087.45 ล้านบาท

ประกอบด้วย บริษัท เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ SAF, บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือMASTER, บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR, บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด (มหาชน) หรือ NTSC, บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MEB, บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BVG, บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ READY, บริษัท อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITTHI, บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ DEXON

บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PLT, บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN, บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL, บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ I2, บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC, บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK, บริษัท สิริซอฟต์ จำกัด (มหาชน) หรือ SRS, บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP, บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA, บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SCL และ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ตามตารางประกอบ ดังนี้

สำหรับหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai โดยเทรดวันแรกปิดเหนือจองจำนวน 14 บริษัท ได้แก่ TBN ปรับตัวขึ้น 150% มาที่ระดับ 42.50 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 17 บาท และ READY ปรับตัวขึ้น 105.48% มาที่ระดับ 15 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 7.30 บาท และ MGI ปรับตัวขึ้น 71.72% มาที่ระดับ 8.50 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 4.95 บาท, BVG ปรับตัวขึ้น 68.83% มาที่ระดับ 6.50 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 3.85 บาท, MEB ปรับตัวขึ้น 55.26% มาที่ระดับ 44.25 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 28.50 บาท, GFC ปรับตัวขึ้น 50% มาที่ระดับ 10.50 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 7 บาท, MASTER ปรับตัวขึ้น 50% มาที่ระดับ 69 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 46 บาท

SAF ปรับตัวขึ้น 46.11% มาที่ระดับ 2.82 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 1.93 บาท, NTSC ปรับตัวขึ้น 40.95% มาที่ระดับ 37 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 26.25 บาท, JPARK ปรับตัวขึ้น 22.63% มาที่ระดับ 4.66 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 3.80 บาท, SVR ปรับตัวขึ้น 13.64% มาที่ระดับ 2.50 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 2.20 บาท, TRP ปรับตัวขึ้น 12.86% มาที่ระดับ 15.80 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 14 บาท, DEXON ปรับตัวขึ้น 2.67% มาที่ระดับ 4.62 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 4.50 บาท, ITTHI ปรับตัวขึ้น 2% มาที่ระดับ 3.06 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 3 บาท

ส่วนบริษัทที่ราคาหุ้นปิดวันแรกหลุดจองจำนวน 6 บริษัท ได้แก่ TPL ลดลง 32.73%, PLT ลดลง 18.71%, SRS ลดลง 22.50%, MCAลดลง 38.18%, I2 ลดลง 7.41% และ SCL ลดลง 11.04%

โดยหลังจากเข้ามาซื้อขายตลาดรองวันแรกจนถึงปัจจุบันวันที่ 28 ธันวาคม 2566 พบว่า ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นยังเหนือราคาไอพีโอจำนวน 9 บริษัทคือ MGI ปรับตัวขึ้น 283.84% มาที่ระดับ 19 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 4.95 บาท, READY ปรับตัวขึ้น 71.23% มาที่ระดับ 12.50 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 7.30 บาท, JPARK ปรับตัวขึ้น 71.05% มาที่ระดับ 6.50 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 3.80 บาท, GFC ปรับตัวขึ้น 55.71% มาที่ระดับ 10.90 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 7 บาท, TRP ปรับตัวขึ้น 27.86% มาที่ระดับ 17.90 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 14 บาท, MASTER ปรับตัวขึ้น 26.09% มาที่ระดับ 58 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 46 บาท, BVG ปรับตัวขึ้น 15.32% มาที่ระดับ 4.44 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 3.85 บาท, MEB ปรับตัวขึ้น 14.91% มาที่ระดับ 32.75 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 28.50 บาท, SCL ปรับตัวขึ้น 13.64% มาที่ระดับ 1.75 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 1.54 บาท

อย่างไรก็ตามอีก 11 บริษัท ราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคาไอพีโอ ได้แก่ I2, TBN, MCA, SVR, SRS, PLT, ITTHI, NTSC, DEXON, SAF และ TPL

สรุปได้ว่า หุ้น IPO เข้าซื้อขายวันแรกต่างหลุดจองทั้งตลาด SET และ mai รวม 20 บริษัท จากเข้ามาทั้งหมด 40 บริษัท ยิ่งไปกว่านั้นพอเข้ามาซื้อขายตลาดรองจนมาถึงปัจจุบันราคาหุ้นยิ่งต่ำกว่าราคาเสนอขาย IPO มากถึง 27 บริษัท งานนี้คงทำให้นักล่าไอพีโอต้องขบคิดหนักว่าจะหมดยุคของการไล่ล่าหุ้นไอพีโอแล้วหรือยัง?

Back to top button