“ทองนิวยอร์ก” ปิดลบ 11.70 เหรียญ เซ่นบอนด์ยีลด์พุ่ง
“ทองนิวยอร์ก” ปิดลบ 11.70 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 2,071.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดลดลงในวันศุกร์ (29 ธ.ค.66) โดยถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 11.70 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 2,071.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 28.60 เซนต์ หรือ 1.17% ปิดที่ 24.086 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 14.00 ดอลลาร์ หรือ 1.37% ปิดที่ 1,009.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 30.90 ดอลลาร์ หรือ 2.71% ปิดที่ 1,109.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำยังคงปรับฐานลงต่อ แต่อาจเริ่มทรงตัว เนื่องจากการซื้อขายที่เป็นไปอย่างเบาบาง
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์คาดว่า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น เนื่องจากคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมี.ค. 2567 โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้น 13% ในปีนี้ หลังปรับตัวในช่วง 1,800-2,135.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สำหรับบรรดานักลงทุนคาดว่า ราคาทองคำจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า โดยได้แรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ, ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และแรงซื้อของธนาคารกลาง
ขณะที่นักลงทุนจะรอการเปิดเผยข้อมูลผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐจากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) และข้อมูลการจ้างงานเดือนพ.ย.ในสัปดาห์หน้า