“หุ้นเอเชีย” เปิดลบตามดาวโจนส์ นลท.ขายทำกำไร-กังวลดอกเบี้ยเฟด

ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ (4 ม.ค. 67) เปิดภาคเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่เพิ่งกลับมาเปิดการซื้อขายอีกครั้งในวันนี้หลังหยุดยาวปีใหม่ ซึ่งประเดิมด้วยเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และเหตุเครื่องบินเฉี่ยวชนระหว่างเครื่องบินของสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ (JAL) กับเครื่องบินของหน่วยยามชายฝั่งญี่ปุ่นที่สนามบินฮาเนดะของกรุงโตเกียว ขณะที่นักลงทุนประเมินรายงานการประชุมประจำวันที่ 12-13 ธ.ค. 66 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ด้านดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,673.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.99 จุด หรือ +0.16% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,965.51 จุด ลดลง 1.74 จุด หรือ -0.06%

ขณะที่ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 33,193.05 จุด ลดลง 271.12 จุด หรือ -0.81% และดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.64% และดัชนี Kosdaq ลดลง 0.69% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปรับตัวลงต่อจากวันพุธ (3 ม.ค.) โดยลดลง 0.5% ในช่วงเช้าวันนี้

สำหรับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (3 ม.ค. 67) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปีที่แล้ว นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังถูกกดดันจากการที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,430.19 จุด ลดลง 284.85 จุด หรือ -0.76%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,704.81 จุด ลดลง 38.02 จุด หรือ -0.80% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,592.21 จุด ลดลง 173.73 จุด หรือ -1.18%

โดยคณะกรรมการเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 12-13 ธ.ค. 66 โดยระบุว่า กรรมการเฟดมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้และความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกนั้นเริ่มมีน้อยลง ขณะเดียวกันกรรมการเฟดมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่เฟดดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินมากเกินไป

นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า กรรมการเฟดคาดการณ์ว่าอาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าการปรับลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นเมื่อใด