ก.ล.ต. เปิดเฮียริ่งเกณฑ์ดำรงเงินกองทุน-สัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศเกี่ยวกับการดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ ของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์-ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หนุนเงินกองทุนเพียงพอรองรับความเสี่ยง-สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมคุ้มครองผู้ลงทุนและป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศเกี่ยวกับการดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ผู้ประกอบธุรกิจ) โดยระบุว่า ตามที่ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ ของผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการใช้หนี้สินด้อยสิทธิในการดำรงเงินกองทุน การทบทวนอัตราความเสี่ยง (haircut) ที่ใช้ในการคำนวณเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน และครอบคลุมความเสี่ยงของตราสารต่างๆ รวมถึงการปรับปรุงนิยามหนี้สินพิเศษให้ครอบคลุมถึงหนี้สินรายการอื่นๆ เพิ่มเติม โดยได้รับความเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ และทบทวนหลักการตามข้อเสนอแนะดังกล่าวแล้วนั้น
ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศพร้อมทั้งร่างเอกสารแนบท้ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
(1) ผู้ประกอบธุรกิจสามารถใช้หนี้สินด้อยสิทธิส่วนที่เกินกว่าส่วนของผู้ถือหุ้น โดยไม่นับเป็นหนี้สินรวมในการคำนวณเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิได้เป็นการชั่วคราว โดยมีระยะเวลาให้ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการเพื่อปรับปรุงแก้ไขให้หนี้สินด้อยสิทธิส่วนที่ไม่นับเป็นหนี้สินรวมดังกล่าวไม่เกินกว่าส่วนของผู้ถือหุ้น รวมทั้งปรับปรุงนิยามของหนี้สินด้อยสิทธิดังกล่าว ให้ต้องมีข้อกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจยกเลิกหรือเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ย หรือผลตอบแทนอื่นใดเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิของผู้ประกอบธุรกิจตามที่ ก.ล.ต. กำหนด เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
(2) ปรับปรุงอัตรา haircut ด้าน position risk ของตราสารบางประเภท และกำหนดอัตรา haircut ด้าน position risk ของหุ้นที่ซื้อขายใน LiVE Exchange และตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) ให้เหมาะสมขึ้น
(3) ปรับปรุงนิยามหนี้สินพิเศษโดยให้รวมถึงหนี้สินรายการอื่นๆ เช่น หนี้สินจากการค้างจ่ายเงินค่าขายหลักทรัพย์คืนให้แก่ลูกค้า เนื่องจากมีคำสั่งจากหน่วยงานของรัฐให้อายัดเงินดังกล่าว และหนี้สินจากการรับฝากหรือเป็นตัวแทนรับฝากทรัพย์สินจากการประกอบธุรกิจอื่นที่ผู้ประกอบธุรกิจมีการแยกทรัพย์สิน ที่รับฝากดังกล่าวออกจากทรัพย์สินของผู้ประกอบธุรกิจอย่างชัดเจน เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดภาระในการดำรงเงินกองทุนในส่วนที่เกินจำเป็นได้
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก.ล.ต.https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=962 และระบบกลางทางกฎหมาย https://law.go.th/ โดยผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: [email protected] [email protected] และ [email protected] จนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567