“ออสเตรเลีย” ชี้ผลผลิตน้ำตาลเสียหาย เซ่นพิษฝนตกหนัก-น้ำท่วม

ออสเตรเลียอ่วมหนัก! จากเหตุอุทกภัยที่รุนแรงทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อเดือน ธ.ค. 66 สร้างความเสียหายต่อพืชน้ำตาล คาดสถานการณ์อาจแย่ลง หากมีฝนตกหนักมากขึ้นหรือมีพายุไซโคลน


นายแดน กัลลิแกน ซีอีโอขององค์กรเคนโกรเวอร์ส (Canegrowers) เปิดเผยว่า พายุไซโคลนแจสเปอร์ก่อให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในรัฐควีนส์แลนด์ ส่งผลให้ฟาร์มบางแห่งสูญเสียพืชน้ำตาลไปมากถึง 60% โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายในภาพรวม

ด้าน สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ไซโคลนแจสเปอร์เป็นพายุไซโคลนลูกแรกที่ขึ้นฝั่งออสเตรเลียในฤดูกาลนี้ทำให้เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน โดยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นส่งผลให้ไฟฟ้าดับในเขตอยู่อาศัยบางส่วนทางตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ ผู้คนต้องหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน อีกทั้งยังมีพืชผลต่างๆ เช่น กล้วย จมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งรัฐควีนส์แลนด์ที่สามารถผลิตน้ำตาลเป็นสัดส่วนราว 95% ของทั้งออสเตรเลีย

โดย นายกัลลิแกน กล่าวว่า พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมนั้นคิดเป็น 1 ใน 5 ของพืชน้ำตาลของประเทศ แม้อ้อยส่วนใหญ่จะได้รับการเก็บเกี่ยวก่อนที่พายุจะข้ามชายฝั่งมาถึง แต่คาดการณ์ว่าผลกระทบจากพายุจะยังส่งผลต่อการเพาะปลูกในปี 2567 ซึ่งแม้ว่าประเทศออสเตรเลียจะยังไม่ถึงช่วงที่ฝนตกหนักมากที่สุดในฤดูฝน ดังนั้นในช่วงที่สามารถข้ามผ่านวิกฤตในเดือน ม.ค. และเดือน ก.พ. ได้นั้น ยังคงมีความกังวลอยู่ว่าสถานการณ์อาจแย่ลง หากมีฝนตกหนักมากขึ้นหรือมีพายุไซโคลนมาอีก

ทั้งนี้ ในรายงานของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาในประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำบาร์รอนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2520 โดยน้ำที่เอ่อล้นจากแม่น้ำได้ไหลเข้าท่วมสนามบินในเมืองแคนส์ จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวชมแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) อันเลื่องชื่อ ซึ่งเป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติโดยยูเนสโก

Back to top button