BCH ท็อกพิกกลุ่ม “โรงพยาบาล” รับโควต้าประกันสังคมเพิ่ม แนะ “ซื้อ” เป้า 25 บาท
โบรกมองโรงพยาบาลระดับกลางที่มีการเปิดรับประกันสังคม และการขยายตัวล่าสุดน่าจะสูงกว่านี้การเติบโตของรายได้ ชู BCH ท็อปพิก! เนื่องจากมีการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งที่สุดจากโควต้าประกันสังคมที่สูงขึ้นและสินทรัพย์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ คาดการณ์ว่ากลุ่มโรงพยาบาลจะรายงานการเติบโตของรายได้ในปี 2567 ราว 8-11% หลังจากที่เห็นการเติบโตที่ไม่ปกติในช่วงโควิด-19 โรงพยาบาลระดับสูงอย่าง บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH และ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ที่รายได้ติดลบ 69% และลดลง 40% ตามลำดับในปี 2563 กลับมาโชว์ผลงานได้แข็งแกร่งในปี 2565 โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 66% และเพิ่มขึ้น 23% ตามลำดับ ซึ่งการเติบโตจะยังดำเนินต่อไปในปี 2566 โดยคาดการณ์ว่าจะมีรายได้ทั้งปี 2566 เพิ่มขึ้น 24% และเพิ่มขึ้น 10% ตามลำดับ
โดยในส่วนของโรงพยาบาลระดับกลาง เช่น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH และ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG ที่เห็นรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2564 เพิ่มขึ้น 139% และเพิ่มขึ้น 120% ตามลำดับ) แต่หลังจากนั้นรายงานรายได้ที่ลดลง 12% และลดลง 13% ตามลำดับในปี 2565 ส่วนในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะลดลง 34% และ 24%
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการเติบโตจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติตามค่าเฉลี่ยในอดีตตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ในขณะที่กำไรสุทธิคาดการณ์ว่าจะสูงขึ้นจากมาร์จิ้นที่ดีขึ้น ส่วนโรงพยาบาลระดับกลางที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงแผนกรักษาใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นมา มองว่าจะเป็นส่วนช่วยดันการเติบโตของกำไรสุทธิจากการขยายตัวของมาร์จิ้นจากฐานที่ต่ำ
ด้านแนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มโรงพยาบาล KKPS ระบุว่าโรงพยาบาลระดับกลาง เช่น BCH โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท และ CHG ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.9 บาท คาดการณ์ว่าจะเห็นการเติบโตของกำไรที่สูงขึ้นในปี 2567 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 29% และเพิ่มขึ้น 18% ตามลำดับ ผลักดันจากมาร์จิ้นที่ขยายตัวกว้างขึ้นจากการขยายกิจการ
ส่วนโรงพยาบาลระดับสูงก็คาดว่าจะยังคงเห็นการเติบโตในปีนี้ด้วยเช่นกัน แต่การเติบโตของกำไรจะเป็นไปอย่างช้าจากฐานที่สูง โดยคาดการณ์ว่า BDMS ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 33.50 และ BH ยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 295 บาท จะเห็นการเพิ่มขึ้นของกำไร 14% และ 12% ตามลำดับในปีนี้
ส่วน บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 19 บาท จะเห็นการเติบโตของกำไร 16% หลังจากที่ปรับตัวลดลงในปี 2566 ที่ 10%
ดังนั้น ในกลุ่มหุ้นโรงพยาบาลทั้งหมด ทางฝ่ายวิจัยเลือก BCH เป็นหุ้นท็อปพิกที่มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรดีที่สุดในปีนี้ ทั้งจากรายได้จากโรงพยาบาลใหม่ และรายได้จากประกันสังคมที่สูงขึ้น โดย BCH ได้โควต้าสำหรับผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตของกำไรให้สูงขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังมีอัพไซด์จากผู้ป่วยที่เดินทางเข้ามารักษาในไทย โดยเฉพาะจาก CLMV