โบรกเชียร์ซื้อ GFC เป้าสูง 16 บาท ลุ้นกำไรปี “มังกรทอง” ทะลุ 100 ลบ.

โบรกชี้ GFC โตเด่น อานิสงส์นโยบายส่งเสริมการมีบุตร พร้อมเร่งเครื่องขยาย 2 สาขาใหม่รับดีมานด์พุ่ง ลุ้นกำไรปี 67 แตะ 96-105 ล้านบาท แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 11-16 บาท


นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC เปิดเผยว่า ธุรกิจให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากเป็นธุรกิจที่น่าจับตาในขณะนี้ หลังจากที่อัตราการเกิดน้อยจนส่งให้ภาครัฐบาลต้องเร่งนโยบายส่งเสริมการมีบุตรเป็นวาระแห่งชาติ ประกอบกับในปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีมะโรง ซึ่งถือเป็นปีมงคลตามความเชื่อของชาวจีนและอีกหลายประเทศทั่วโลก เพราะมังกรเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ สติปัญญา และความสำเร็จ ทำให้ดีมานด์ในการเข้ารับบริการเพื่อรักษามีบุตร สำหรับการมีบุตรช่วงปีมังกรจึงคึกคัก

ทั้งนี้ ส่งผลให้ธุรกิจรักษาผู้มีบุตรยากจึงเป็นธุรกิจที่น่าจับตา โดยเฉพาะ GFC ที่นอกจากจะได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ยังเร่งเดินเกมในการขยาย 2 สาขา ทั้งสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และคลินิกสาขาอุบลราชธานี เพื่อรองรับกับดีมานด์กลุ่มผู้เข้ารับบริการรักษาผู้มีบุตรยาก ทั้งคนไทยและต่างชาติในอนาคต ซึ่งสอดรับกับ 4 บริษัทหลักทรัพย์ ที่แนะนำหุ้น GFC พร้อมประเมินอัตราการเติบโตสำหรับปี 2567

โดย บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้ของ GFC ที่สูงขึ้นของสาขาพระราม 3 และพระราม 9 ซึ่งมีทิศทางการเติบโตโดดเด่น โดยแนะนำ “ซื้อ” บน P/E ที่ 28 เท่าในปี 2567 เป็น 16 บาท ตอนนี้อิงจาก P/E ที่ 34 เท่า 2567 เพื่อสะท้อนถึงการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งในระยะยาวของ GFC จากการขยายสาขาอีก 2 แห่ง โดยประเมินกำไรสุทธิในปี 2566-2568 ไว้ที่ 72 ล้านบาท , 103 ล้านบาท และ 133 ล้านบาท ตามลำดับ พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ขึ้นอีก 13%-45%

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ประมาณการกำไรสุทธิของ GFC ในปี 2566-2568 ที่ 70.2 ล้านบาท , 104.6 ล้านบาท และ115.5 ล้านบาท ตามลำดับ โดยคิดเป็นอัตราการเติบโต เท่ากับ 6.8%, 49.1% และ 10.4% ตามลำดับ หรือ28.3% CAGR และได้ประมาณการรายได้เท่ากับ 340 ล้านบาท , 480 ล้านบาท และ 520 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเท่ากับ 23.2%, 41.2% และ 8.3% ตามลำดับ หรือ 23.7% CAGR ตามแนวโน้มการเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้มีบุตรยาก รวมทั้งตามแผนการขยายสาขา และการให้บริการแก่ลูกค้าต่างชาติ โดยให้มูลค่าที่เหมาะสมปี 2567 เท่ากับ 14.30 บาท อิง PE เท่ากับ 30 เท่าใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย PE ระยะยาวของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล โดยมองว่าแนวโน้มของผลประกอบการยังคงเติบโตต่อเนื่อง

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดปี 2567 มีกำไรสุทธิที่ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากการเปิดสาขาใหม่ สุวรรณภูมิ-พระราม 9 และอุบลราชธานี ตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/2567 รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ขยายห้อง LAB ที่เป็นมาตรฐานสากลจะทำให้มีลูกค้าต่างชาติเข้าขอรับบริการเป็นปีแรก พร้อมเคาะราคาเป้าหมายใหม่ที่ 12 บาท อิง PE เดิม 25 เท่า โดยแนะนำ “ซื้อ”

สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด มองว่า จากแนวโน้มจำนวนเคสที่เร่งขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับดีมานด์ของการมีลูกให้ทันในช่วงปีมังกรทอง (ปี 2567) ซึ่งจะต้องตั้งครรภ์ช้าสุดในช่วงไตรมาส 4/2566 – ไตรมาส 1/2567 จึงคาดการณ์กำไรปี 2567 แตะ 96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากการเปิดสาขาใหม่พระราม 9 และอุบลราชธานี ช่วงปลายไตรมาส 1/2567- ต้นไตรมาส 2/2567 ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 แห่ง จะสร้างรายได้ปี 2567 ที่ 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% ประกอบกับปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจากับ Agency เพื่อส่งคนไข้ชาวจีนมารับบริการในช่วงไตรมาส 1/2567 พร้อมประเมินราคาเหมาะสม GFC ด้วยวิธี Prospective PE Ratio เทียบกับบริษัทที่อยู่ในหมวดของธุรกิจทางการแพทย์ ทั้งกลุ่มโรงพยาบาลขนาดเล็ก และคลินิกเฉพาะทาง โดยประเมินราคาเหมาะสมปี 2567 ที่ระดับ 11.70 บาท

Back to top button