บลจ.กสิกรไทย ผนึก “เจ.พี. มอร์แกน” รุกธุรกิจกองทุน วางเป้า 3 ปี ดันพอร์ต AUM เพิ่มแสนล้าน

บลจ.กสิกรไทย ผนึก “เจ.พี. มอร์แกน" เสริมแกร่งธุรกิจกองทุนรวม ลุยพัฒนาผลิตภัณฑ์-บริการลงทุน วางเป้า 3 ปี ดันพอร์ตกองทุน Multi Asset เพิ่มอีก 1 แสนล้านบาท เน้นเจาะกลุ่มไฮเน็ตเวิร์ค หนุนโอกาสผู้ลงทุนไทยเติบโตมั่งคั่ง-ยั่งยืน


นายสุรเดช เกียรติระนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย หรือ KAsset เปิดเผยว่า บริษัท จับมือ J.P. Morgan Asset Management (JPMAM) สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงนวัตกรรมด้านการลงทุน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลกเพื่อยกระดับการลงทุนของไทย พร้อมสร้างความเข้าใจเชิงลึกให้กับผู้ลงทุนไทยเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน

“เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ภาวการณ์ลงทุนเผชิญปัจจัยเสี่ยงทั้งโควิด-19 ความขัดแย้งสงครามการค้าสหรัฐ-จีน และสงครามรัสเซีย-ยูเครนเป็นต้นส่งผลให้การลงทุนมีความผันผวนทำให้ผลตอบแทนในช่วง 2-3 ปี่ผ่านมาไม่เป็นไปตามเป้า ดงนั้นการร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นก้าวย่างสำคัญในการพลิกโฉมการลงทุนบ้านเรา และการได้พาร์ทเนอร์มีความชำนาญและทีมงานเกือบทุกภูมิภาคเพื่อเข้ามาช่วยในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีมาให้ลูกค้า เพื่อให้สามารถตั้งหมายการลงทุนที่ยั่งยืน และสามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ทุกสภาวะตลาด” นายสุรเดช กล่าว

ด้านนายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร KAsset กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ลงทุนไทยประมาณ 60% กำลังเผชิญปัญหาพอร์ตการลงทุนมีความผันผวน (ที่มา: บลจ.กสิกรไทย ณ วันที่ 25 ธ.ค. 66)  โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และวิกฤตเศรษฐกิจโลก ปัจจัยเหล่านี้ได้นำไปสู่ความผันผวนของตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเมินสถานการณ์ได้ยากยิ่งขึ้น ดังนั้น KAsset จึงมุ่งพัฒนาแผนกลยุทธ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก พร้อมปรับรูปแบบการลงทุนให้สอดรับและทันทุกการเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ KAsset ที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนของผู้ลงทุนไทยมีความมั่นคงและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

“การร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กันในครั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายที่จะผลักดันกองทุนประเภทสินทรัพย์ผสม (Multi Asset Fund) ให้มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) เพิ่มขึ้นอีก 1 แสนล้านบาท ภายใน 3 ปี โดยจะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็น นักลงทุนรายใหญ่พิเศษ” หรือ Ultra High Net Worth (UHNW) ซึ่งเป็นลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง” นายอดิศร กล่าวเพิ่มเติม

ส่วนนางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญกับธุรกิจการบริหารจัดการกองทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งให้กับลูกค้า โดยปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าที่มีการลงทุนในกองทุนรวมเกือบ 1 ล้านราย (ณ วันที่ 25 ธ.ค. 66) และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

ดังนั้น ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง KAsset และ JPMAM ตั้งแต่การบริหารจัดการไปจนถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ตรงความต้องการของลูกค้าธนาคารกสิกรไทย จะช่วยยกระดับประสบการณ์การลงทุนของลูกค้าได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับความมุ่งหมายของธนาคารในการส่งมอบผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่นักลงทุนไทย อีกทั้งยังเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้ KAsset เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ

ด้านนายแดน วัตกินส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจ.พี. มอร์แกน แอสเซท แมเนจเม้นท์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ทีมงานของ JPMAM รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ KAsset ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ลงทุนไทย โดยมองว่าตลาดทุนไทยเป็นตลาดที่มีความคึกคักและเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค อย่างไรก็ดี ความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั่วโลกของ JPMAM ทำให้พวกเรามีความพร้อมที่จะนำเสนอโซลูชั่นการลงทุนที่ได้มาตรฐานระดับโลกให้กับผู้ลงทุนไทย และเป็นการเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจของ JPMAM ไปทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังจาก 2 บลจ.ชั้นนำด้านการลงทุน โดย JPMAM เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการลงทุนระดับโลก มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ KAsset เป็นผู้นำตลาดกองทุนรวมของไทย มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกว่า 1.49 ล้านล้านบาท ที่มีความเข้าใจเชิงลึกต่อสินทรัพย์และสถานการณ์การลงทุนในไทย โดยความร่วมมือนี้จะมุ่งเสริมศักยภาพของ KAsset ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้ข้อมูลเชิงลึกที่เข้าถึงผู้ลงทุนได้ทันสถานการณ์อย่างตรงไปตรงมา และการให้คำปรึกษาอย่างเข้าใจ ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงิน

อนึ่ง J.P. Morgan Asset Management (JPMAM) เป็นผู้นำระดับโลกด้านการจัดการลงทุน มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารสูงถึง 2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ วันที่ 30 ก.ย. 66) โดยให้บริการด้านการบริการกับกลุ่มผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายย่อย และผู้ลงทุนรายใหญ่ ในทุกตลาดหลักทั่วโลก JPMAM มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ เฮดจ์ฟันด์ และไพรเวทอิควิตี้

ส่วน JPMorgan Chase & Co. (NYSE: JPM) สถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ที่มีสินทรัพย์ 3.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ วันที่ 30 ก.ย. 66) เป็นผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินครบวงจร ทั้งวาณิชธนกิจ ธนาคารพาณิชย์ ธุรกรรมทางการเงิน และธุรกิจจัดการกองทุน ที่มีลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจหลายล้านรายในสหรัฐอเมริกา รวมถึงองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก และ JPMorgan Chase & Co. จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค และเป็นส่วนประกอบของดัชนี Dow Jones Industrial Average

Back to top button