BCH-BDMS ท็อปพิก! รับโรคระบาดหนัก ดันกำไรโตแกร่ง

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้สำรวจข้อมูลเกี่ยวกับ นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค มีระบบข้อมูลที่ทันสมัย มีการคาดการณ์สถานการณ์โรคที่อาจเกิดการระบาด และโรคที่ต้องเฝ้าระวังจากข้อมูลการระบาดและปัจจัยแวดล้อมที่เกิดขึ้น สามารถพยากรณ์โรคได้ และกำหนดมาตรการป้องกันควบคุมโรคได้อย่างเหมาะสม โดยในปีนี้จะมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการคาดการณ์ไว้ว่า ในปี 2567 นี้ อาจพบการระบาดของ 3 โรค ดังนี้

ทั้งนี้สอดคล้องกับ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กรมควบคุมโรคเตือนระวังการระบาดของโควิด 2562, ไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออกในประเทศไทย และเฝ้าระวังโรคอื่นๆ อีก 12 โรค ซึ่งเป็นโรคระบาดตามฤดูกาล และ โรคที่มีผลกระทบกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ โรคมือ-เท้า-ปาก, โรคหัด, โรคฝีดาษวานร, โรคเมลิออยโดซิส (ไข้ดิน), โรคฉี่หนู, โรคไข้หูดับ, ไวรัสซิกา ชิคุนกุนยา, ซิฟิลิส, โรคหนองใน, โรคเอดส์ และวัณโรค

อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรคคาดการณ์จำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกจะเพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 276,945 รายในปีนี้ และมีผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นจาก 187 รายเป็น 280 ราย นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 649,520 รายในปี 2567 ลดลงเล็กน้อยจาก 652,868 รายในปี 2562 แต่จำนวนผู้ป่วยโควิดที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจะเพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 38,672 ราย และผู้เสียชีวิตจะคงที่ที่ 852 ราย

สำหรับกรมควบคุมโรคคาดการณ์จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จะลดลง 25% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจาก 460,325 ราย (รวมผู้เสียชีวิต 29 ราย) เหลือ 346,110 รายในปีนี้ มุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาลจากข้อมูลข้างต้น จำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ และโควิดที่เข้ารักกษาในโรงพยาบาลทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 6,848 รายเป็น 661,727 รายในปีนี้ เพิ่มขึ้น1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จึงคาดว่าค่ารักษาพยาบาลรวมสำหรับสามโรคนี้จะเพิ่มขึ้นปีนี้ เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลไข้เลือดออก (อาการรุนแรงกว่า ผู้เสียชีวิตมากกว่า) สูงกว่าไข้หวัดใหญ่

นอกจากนี้ WHO คาดการณ์ว่าภาวะโลกร้อนกระตุ้นให้เกิดการระบาดของโรคอื่นๆ ที่มียุงเป็นพาหะมากขึ้น (ชิคุนกุนยา, ไวรัสซิกา และมาลาเรีย) และโรคอื่นๆ (อหิวาตกโรค อาหารเป็นพิษ ฯลฯ) ซึ่งจะเพิ่มรายได้ของโรงพยาบาลในปีนี้ คาดการณ์ทั้งรายได้รวมและกำไรธุรกิจหลักของโรงพยาบาลสี่แห่งใน coverage ของเราจะเพิ่มขึ้น 8% ปีนี้

ดังนั้นเราจึงมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาลหุ้นเด่นของเราคือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH และ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS

โดยประเมิน BCH ว่าบริษัทตั้งเป้าเติบโต 10% ในปี 2567 ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่ 7% จากรายได้และบิล รวมถึงอัตรากำไรที่สูงขึ้นสำหรับผู้ป่วยทั่วไปจากการรักษาโรคซับซ้อนมากสูง