WTI ปิดบวก 66 เซนต์ หวั่นสถานการณ์ “ทะเลแดง” กระทบอุปทาน
น้ำมัน WTI ปิดบวก 66 เซนต์ สูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ท่ามกลางความตึงเครียดทะเลแดง หวั่นกระทบอุปทานน้ำมัน หลังจากที่สหรัฐและอังกฤษใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (12 ม.ค.67) และปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ท่ามกลางความตึงเครียดในทะเลแดงซึ่งทำให้เกิดความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านอุปทานน้ำมัน หลังจากที่สหรัฐและอังกฤษใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 72.68 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ราคาปรับตัวลง 1.5% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 78.29 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 0.6% ในรอบสัปดาห์นี้
โดยตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านอุปทาน หลังจากสหรัฐและอังกฤษใช้ปฏิบัติการทางอากาศพุ่งเป้าโจมตีฐานที่มั่น 16 แห่งของกลุ่มกบฏฮูตีในวันที่ 11 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายต่อฐานที่ตั้งเรดาร์, คลังสรรพาวุธ และแท่นยิงจรวด โดยปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่กลุ่มฮูตีได้ทำการโจมตีเรือสินค้าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้อิสราเอลที่ใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และเพื่อเป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์
นายอับดุล-มาลิค อัล-ฮูตี ผู้นำกลุ่มกบฏฮูตี กล่าวว่า อเมริกาจะต้องชดใช้ต่อการโจมตีกลุ่มฮูตี ซึ่งได้เผชิญหน้ากับความก้าวร้าวของอเมริกา และความก้าวร้าวใดๆ ของอเมริกาจะไม่ถูกปล่อยผ่านโดยไม่มีการตอบโต้ และการตอบโต้นี้จะใหญ่กว่าที่ฮูตีเคยดำเนินการมาในทะเล
ด้าน นายฮุสเซน อัล-เอซซี เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮูตี กล่าวว่า อเมริกาและอังกฤษจะต้องเตรียมชดใช้ในราคาแพง และรับผลกระทบจากความก้าวร้าวในครั้งนี้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฮูตีรายอื่น ๆ กล่าวแสดงความไม่พอใจเช่นกัน โดยระบุว่า การโจมตีของสหรัฐเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนและไม่เป็นธรรม ซึ่งฮูตีจะยังคงเดินหน้าโจมตีเรือของอิสราเอลหรือเรือทุกลำในทะเลแดงต่อไป