TRP ชี้ความงามปี 67 มาแรง ชูศัลยแพทย์ไทยสู่ “ซอฟต์พาวเวอร์” ระดับโลก
TRP มองทิศทางอุตสาหกรรมความงามไทยปี 67 มาแรง คาดการณ์เติบโตในอีก 5 ปีข้างหน้า รับดีมานด์ลูกค้าผู้หญิงเพิ่มต่อเนื่อง พร้อมชูศัลยแพทย์ไทยฝีมือดีสู่ซอฟต์พาวเวอร์ระดับสากล
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ภายใต้ชื่อ “ธีรพรคลินิก” เปิดเผยว่าภาพรวมอุตสาหกรรมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าของประเทศไทย ปี 67 และในอีก 5 ปีข้างหน้ามีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องสอดคล้องกับศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ระบุว่า ธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของประเทศไทยปี 66 น่าจะมีมูลค่าตลาดประมาณ 71,000-72,000 ล้านบาท ขยายตัวราว 2.3 – 3.6% จากปี 65
โดยหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปิดกว้างต่อการทำศัลยกรรม การกลับมาของผู้บริโภคในกลุ่ม CLMV ประเภทของการบริการและอัตราค่าบริการที่มีให้เลือกหลากหลาย นับเป็นปัจจัยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามของไทยเติบต่อเนื่องในระยะยาว
ทั้งนี้ ประเมินว่าปี 67 อุตสาหกรรมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าอยู่ในช่วงขาขึ้นและเติบโตต่อเนื่องตามความนิยมและความต้องการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเทรนด์การศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าที่เน้นความเป็นธรรมชาติ สวยดูดีและคงทนในแบบฉบับของตัวเอง รวมถึงการเลือกทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้ากับสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ที่มีมาตรฐานความน่าเชื่อถือ รวมถึงมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชำนาญเฉพาะทาง
อีกทั้งต้องมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยสามารถตอบโจทย์เทรนด์ความงามของผู้บริโภคในปัจจุบันอย่างลงตัว นับเป็นโอกาสของ “ธีรพรคลินิก” ในฐานะผู้นำศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าของประเทศ ที่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มากประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการศัลยกรรมตกแต่งความงามในประเทศและต่างประเทศ มีเครื่องมือแพทย์ครบครัน ทันสมัย ได้มาตรฐานระดับสากล มีนวัตกรรมเฉพาะที่โดดเด่น อาทิ Advanced Face-Lock แก้ไขความหย่อนคล้อยบนใบหน้า คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้า สวยเนียนเป็นธรรมชาติ
รวมถึงการฟื้นฟูผิวหน้าผู้สูงวัยให้กลับมาอ่อนเยาว์ ด้วยเทคนิค TRP Programs ตลอดจนการให้บริการด้านผิวพรรณและความงามต่างๆ ที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการให้กับผู้หญิงทุกวัยอย่างแท้จริง และการเตรียมก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแห่งแรกในประเทศไทย ช่วงปลายปี 2567 นับเป็นการต่อยอดการเติบโต และรองรับการบริการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต สอดรับกับทิศทางธุรกิจศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าของประเทศไทยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว
ทั้งนี้ นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ กล่าวว่าการส่งเสริมนโยบาย “Soft Power” ของรัฐบาลเพื่อประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจ และเชื่อมโยงวัฒนธรรมไทยสู่สากลให้ชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว หรือทำงานในประเทศไทยเพิ่มขึ้นว่าการยกระดับธุรกิจศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าให้เป็น “Soft Power” แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ ด้วยจุดแข็งของอุตสาหกรรมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าประเทศไทย ที่มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ มีชื่อเสียงด้านศัลยกรรมความงามที่ดี มีอัตราค่าบริการถูกกว่าประเทศอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่ง
โดยทำให้มีจำนวนผู้เข้ารับบริการที่เป็นชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กระบวนการสร้าง “Soft Power” จะต้องอาศัยการร่วมมือของหลายๆ ฝ่าย ขณะที่ TRP พร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าของไทย เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยจุดเด่นการมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีนวัตกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
“นอกจากนี้ธุรกิจศัลยกรรมความงามของประเทศไทย ที่มีแนวโน้มการขยายตัวแบบก้าวกระโดด รวมถึงการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมในธุรกิจบริการเพื่อความงาม Surgery และ Non Surgery ขณะที่การจับมือทางธุรกิจกับพันธมิตรเพิ่มความแข็งแกร่งและโอกาสการเติบโตตามเป้าหมาย ตอกย้ำการเป็นตัวจริงและผู้นำในอุตสาหกรรมศัลยกรรมตกแต่งความงามเฉพาะบนใบหน้าระดับ Premium ของประทศไทย” นพ.ชลธิศ กล่าว