“อิงฟ้า-ชาล็อต” เฉือนขาย MGI รวม 1.5 แสนหุ้น ฟาก 2 วีไอไร้เงาถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก

เปิดรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกหุ้น MGI พบอิงฟ้า-ชาล็อต ลดสัดส่วนถือหุ้น ขณะที่ KAMART-พีรเจต-ขันธ์พลร์เก็บหุ้นเพิ่มเข้าพอร์ต พร้อมโผล่ผู้ถือหุ้นหน้าใหม่  “เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ” ขึ้นมาติดอันดับ 5 สัดส่วน 1.17% รวมถึง มานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ เข้ามาอันดับ 6 สัดส่วน 1.15% แต่กลับไร้ชื่อ “หมอพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี” และ “สุระ คณิตทวีกุล”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายใต้กลุ่มอุปโภคบริโภค ด้วยมูลค่าระดมทุน 297 ล้านบาท ราคาจองซื้อ IPO ที่ 4.95 บาท  โดยมีจำนวนหุ้นที่เสนอขายไม่เกิน 60 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 28.57 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้

สำหรับ MGI มีทุนชำระหลังเสนอขาย 105 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 150 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 60 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และผู้ลงทุนสถาบัน 45 ล้านหุ้น, ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 9 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 6 ล้านหุ้น ตามลำดับ

ทั้งนี้ จากการจัดสรรหุ้นหลังจากเสนอขายหุ้น IPO ทำให้สัดส่วนการถือหุ้น ณ วันแรกเข้าซื้อขายในตลาด mai เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 พบว่า MGI มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกดังนี้ 1.นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ถือหุ้นจำนวน 90,000,000 หุ้น สัดส่วน 42.86%, 2.นายรัชพล จันทรทิม ถือหุ้นจำนวน 59,999,800 หุ้น สัดส่วน 28.57%, 3.บมจ.คาร์มาร์ท หรือ KAMART ถือหุ้นจำนวน 6,000,000 หุ้น สัดส่วน 2.86%, 4.นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี ถือหุ้นจำนวน 4,700,000 หุ้น สัดส่วน 2.24%, 5.ายขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์ ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น สัดส่วน 0.95%,6.นางสาวชาล็อต ออสติน ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น สัดส่วน 0.95%, 7. นายพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น สัดส่วน 0.95%, 8.นายสุระ คณิตทวีกุล ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น สัดส่วน 0.95%, 9.นางสาวอิงฟ้า วราหะ ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น สัดส่วน 0.95% และ 10.นายกฤติเดช ประชานุกูล ถือหุ้นจำนวน 1,500,000 หุ้น สัดส่วน 0.71%

ล่าสุดจากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายงานภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 9 มกราคม 2567 กับพบว่าการถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกดังนี้ 1.นาย ณวัฒน์ อิสรไกลศีล ถือหุ้นจำนวน 90,000,000 หุ้น สัดส่วน 42.86%, 2.นายรัชพล จันทรทิม ถือหุ้นจำนวน 59,999,800 หุ้น สัดส่วน 28.57%, 3.บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นจำนวน 6,550,000 หุ้น สัดส่วน 3.12%, 4.นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี ถือหุ้นจำนวน 6,160,000 หุ้น สัดส่วน 2.93%, 5.นายเฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ ถือหุ้นจำนวน 2,450,000 หุ้น สัดส่วน 1.17%, 6.นายมานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ ถือหุ้นจำนวน 2,409,300 หุ้น สัดส่วน 1.15%, 7.นายขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์ ถือหุ้นจำนวน 2,400,000 หุ้น สัดส่วน 1.14%, 8.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้นจำนวน 1,969,137 หุ้น สัดส่วน 0.94%, 9.นางสาวชาล็อต ออสติน ถือหุ้นจำนวน 1,950,000 หุ้น สัดส่วน 0.93% และ 10.นางสาวอิงฟ้า วราหะ ถือหุ้นจำนวน 1,900,000 หุ้น สัดส่วน 0.90%

โดยจากข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 9 มกราคม 2567 การถือครองหุ้น 10  อันดับแรกเปลี่ยนแปลงไปจากวันแรกที่เข้าเทรดมีทั้งผู้ถือหุ้นเดิมมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น มีรายชื่อใหม่เข้ามาถือหุ้น ผู้ถือหุ้นเดิมหายไปจาก 10 อันดับแรก หรือผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนหุ้นลดลง ตามลำดับ

สำหรับผู้ถือหุ้นมีจำนวหุ้นการถือหุ้นเพิ่มอย่าง KAMART ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 500,000 หุ้น เป็น 6,500,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.12% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท จากเดิม 6,000,000 หุ้น สัดส่วน 2.86% ต่อมานายพีรเจต สุวรรณนภาศรี  ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 1,300,000 หุ้น เป็น 6,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.93% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท จากเดิม 4,700,000 หุ้น สัดส่วน 2.24% และนายขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์ ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 300,000 หุ้น เป็น 2,300,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.14% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท จากเดิม 2,000,000 หุ้น สัดส่วน 0.95%

ขณะที่รายชื่อบุคคลที่เข้ามาถือหุ้นใหม่ใน 10 อันดับแรก อย่างนายเฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ” นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) หรือนายกสมาคม Thai Vi เข้ามาถือหุ้นอันดับ 5 มีจำนวน 2,450,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.17% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท, นายมานิตย์ ศรายุทธิการณ์ เข้ามาถือหุ้นอันดับ 6 มีจำนวน 2,409,300 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.15% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท และ บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด เข้ามาถือหุ้นอันดับ 8 มีจำนวน 1,969,137 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.94% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท

ส่วนฝากฝั่งนางสาวชาล็อต ออสติน จากถือหุ้นใหญ่อันดับ 6 จำนวน 2,000,000 หุ้น เทขายหุ้นออกมา 50,000 หุ้น ส่งให้ถือหุ้นลดเหลือ 1,950,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.93% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทตกลงมาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 9 เช่นเดียวกับนางสาวอิงฟ้า วราหะ จากถือหุ้นใหญ่อันดับ 9 จำนวน 2,000,000 หุ้น เทขายหุ้นออกมา 100,000 หุ้น ส่งให้ถือหุ้นลดเหลือ 1,900,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.90% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทตกลงมาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 10

อย่างไรก็ดีจะเห็นได้ว่าไม่พบรายชื่อ นายพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี,นายสุระ คณิตทวีกุล และนายกฤติเดช ประชานุกูล ติดอยู่ในโผรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกแล้วอย่างไร้เงา

 

Back to top button