IMF คาดเศรษฐกิจไทยปี 66 โต 2.5% – ปี 67 เพิ่มเป้า 4.4%
IMF ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 66 GDP ขยายตัว 2.5% คาดการณ์จะฟื้นตัว 4.4% ในปี 67 รับแรงหนุนมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต ชี้นโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสม
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ ( 23ม.ค.67 ) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ติดตามและประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยของ IMF (Article IV Consultation) ประจำปี 66 โดยรวม IMF มีมุมมองที่สอดคล้องกับทางการไทยต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวแม้จะชะลอลงบ้างจากการดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก รวมถึงการปรับเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
โดย IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 66 จะขยายตัวที่ประมาณ 2.5% และคาดการณ์ว่าในปี 67 จะเร่งขึ้นเป็น 4.4% (กรณีรวมผลมาตรการ Digital Wallet) จากการพื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการบริโภคภายในประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป IMF คาดการณ์ว่าในปี 66 จะอยู่ที่ 1.3% และปี 67 จะอยู่ที่ 1.7% ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
อีกทั้ง IMF ยังเห็นว่านโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสม และควรติดตามความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินอย่างใกล้ชิด ซึ่งสอดคล้องกับกรอบการดำเนินนโยบายการเงินของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเต็มศักยภาพ และระบบการเงินมีเสถียรภาพ
ขณะที่ภาคการเงิน IMF สนับสนุนแผนของธปท. ในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ผ่านการออกเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) และการดูแลหนี้เรื้อรัง (persistent debt)
โดยแนะนำให้ทางการไทยให้ความสำคัญกับการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งควบคู่กับการลดทอนผลกระทบจากการแบ่งขั้วทางภูมิเศรษฐศาสตร์ (geo-economic fragmentation) รวมทั้งสนับสนุนการเพิ่มผลิตภาพ (productivity) โดยเฉพาะการเพิ่มพูนทักษะแรงงาน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านต่าง ๆ ตลอดจนการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและปรับกฎเกณฑ์ทางธุรกิจให้เหมาะสม เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ตามศักยภาพ
