“ภูมิธรรม” หนุน สคทช. แก้พื้นที่ “ป่าชายเลน” ระนองกว่า 502 ไร่ให้เป็นที่ทำกิน

“ภูมิธรรม เวชยชัย” ติดตามการจัดสรรที่ดินทำกินของ สคทช. หลังพบปัญหามีประชาชนอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนของเขตป่าสงวนแห่งชาติกว่า 502 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่กลายเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนไปหมดแล้ว โดยให้เพิกถอนจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติให้เป็นพื้นที่ราชพัสดุ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสํานักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) ให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะฯ ในการลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เพื่อติดตามการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน การกระจายการถือครองที่ดิน แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านที่ดินของประชาชน ทั้งปัญหาการไม่มีที่ดินทำกิน ปัญหาการถือครองที่ดิน รวมถึงการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง ท้องที่หมู่ที่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง และท้องที่ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ซึ่งประชาชนอยู่อาศัยโดยไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน

โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เขตป่าชายเลน ซึ่งห้ามมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์ทุกกรณีทั้งภาครัฐและเอกชนและอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว และป่าคลองเกาะสมุย ซึ่งเป็นปัญหาความเดือดร้อนที่ประชาชนในพื้นที่เมืองระนองได้รับผลกระทบและสั่งสมมานาน โดยมีราษฎรในพื้นที่ จำนวนกว่า 200 คน มารอรับฟังแนวทาง

นายภูมิธรรม เปิดเผยหลังฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ในกลุ่มจังหวัดอันดามัน และบรรยายสรุปข้อมูลพื้นที่ ภาพรวมปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานที่ผ่านมาว่า รัฐบาลให้ความสำคัญ กับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน  ซึ่งระหว่างการเดินทางมายังพื้นที่ ได้เห็นสภาพพื้นที่เป็นที่อยู่อาศัย ประกอบกิจการการค้า ไม่เห็นสภาพความเป็นป่าชายเลนแล้ว จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมาบูรณาการร่วมกันหาวิธีแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบ เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถอยู่อาศัยทำกินได้อย่างถูกต้อง

ทั้งนี้เพื่อช่วยลดปัญหาและความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินดังกล่าว นอกจากการมาแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง ยังมีเป้าหมายเพื่อมาดูสภาพความเป็นอยู่ และพูดคุยกับประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคในการดำรงชีพ และเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ ซึ่งจะนำประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไปบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานเพื่อหาแนวทาง ช่วยแก้ไขปัญหาต่อไป

ขณะที่ประเด็นการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณชุมชนเมืองระนอง  พื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ ที่เป็นปัญหาอยู่ขอให้ประชาชนได้คลายกังวล ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวได้ผ่านการทำประชาคมเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว และได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปข้อมูลรายละเอียดเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอขอความเห็นชอบให้เป็นพื้นที่ราชพัสดุ โดยจะต้องหารือเรื่องเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการเช่าที่ให้มีความเหมาะสมต่อไป

สำหรับผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีดังนี้

  1. จังหวัดระนอง เนื้อที่ประมาณ 47,260 ไร่ มีพื้นที่เป้าหมาย 43 พื้นที่ คทช.จังหวัดเห็นชอบแล้ว 42 พื้นที่ ได้รับหนังสืออนุญาต ให้เข้าทำประโยชน์ จำนวน 33 พื้นที่ จัดคนลงแล้ว 967 ราย
  2. จังหวัดพังงา เนื้อที่ประมาณ 42,512 ไร่ มีพื้นที่เป้าหมาย 95 พื้นที่ คทช.จังหวัดเห็นชอบแล้ว 76 พื้นที่ ได้รับหนังสืออนุญาต ให้เข้าทำประโยชน์ จำนวน 36 พื้นที่ จัดคนลงแล้ว 2,441 ราย
  3. จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ประมาณ 1,008 ไร่ มีพื้นที่เป้าหมาย 43 พื้นที่ คทช.จังหวัดเห็นชอบแล้ว 43 พื้นที่ ได้รับหนังสืออนุญาต ให้เข้าทำประโยชน์ จำนวน 28 พื้นที่ อยู่ระหว่างจัดคนเข้าใช้ประโยชน์
  4. จังหวัดกระบี่ เนื้อที่ประมาณ 27,378 ไร่ มีพื้นที่เป้าหมาย 100 พื้นที่ คทช.จังหวัดเห็นชอบแล้ว 100 พื้นที่ ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ จำนวน 28 พื้นที่ จัดคนลงแล้ว 2,250 ราย
  5. จังหวัดตรัง เนื้อที่ประมาณ 21,698 ไร่ มีพื้นที่เป้าหมาย 59 พื้นที่ คทช.จังหวัดเห็นชอบแล้ว 59 พื้นที่ ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ จำนวน 51 พื้นที่ จัดคนลงแล้ว 1,337 ราย
  6. จังหวัดสตูล เนื้อที่ประมาณ 29,570 ไร่ มีพื้นที่เป้าหมาย 100 พื้นที่ คทช.จังหวัดเห็นชอบแล้ว 72 พื้นที่ ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ จำนวน 11 พื้นที่ จัดคนลงแล้ว 632 ราย

ทั้งนี้คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดจะเร่งรัดดำเนินการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดให้กับประชาชนที่ได้รับการจัดที่ดิน พร้อมทั้งพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้กับประชาชนต่อไป ทั้งนี้ สำหรับประเด็นการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณชุมชนเมืองระนอง เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ ตามนโยบาย คทช. ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินของรัฐให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด

Back to top button