“เศรษฐา” เดินหน้า “แลนด์บริดจ์” มั่นใจเพิ่มอำนาจต่อรอง ตปท. ยกระดับไทยสู่ฮับการบิน
“เศรษฐา ทวีสิน” ย้ำชัดโครงการแลนด์บริดจ์ เพิ่มอำนาจต่อรองต่างประเทศ และน้อมรับฟังความเห็นต่างประชาชน-นักลงทุน พร้อมยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินอาเซียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (24 ม.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยระหว่าง ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Thailand 2024 The Great Challenges” เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส ที่จัดโดยสำนักข่าวมติชนว่า การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้วว่ารัฐบาลได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง แม้บ้างอย่างจะทำไม่ครบ แต่รัฐบาลพยายามวางแนวทางการขยายโอกาสให้ประชาชนคนไทยทุกคนมากกว่าว่าอีก 4 ปี ว่าจะเห็นอะไรบ้าง
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลได้ไปเข้าร่วมในการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งไทยไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีไปเลยในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในการประชุมครั้งนี้รัฐบาล ได้นำเสนอเรื่องการลงทุนขั้นพื้นฐานนั้นคือเรื่องแลนด์บริดจ์ ที่มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งรัฐบาลรับฟังทุกข้อท้วงติง และมีการศึกษาทุกอย่าง โดยการพูดคุยครั้งนั้นมีนักลงทุนหลายรายไม่ว่าจะจากประเทศอินโดนีเซีย ดูไบ สนใจพร้อมมาพูดคุยรวมไปถึงมาดูสถานที่จริง
ขณะที่เมื่อวานนี้ (23 ม.ค. 67) รัฐบาลได้ไปลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็น พร้อมทั้งยืนยันว่ารับฟังทุกเรื่องทั้งเสียงที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ทุกครั้งที่ไปรับฟังเรื่องแลนด์บริดจ์ ซี่งหลายคนไม่ทราบว่าองค์ประกอบต่างๆ มีอะไรบ้าง จะรู้คร่าวๆ แต่การที่รัฐบาลจะใช้งบประมาณลงทุนน้อยที่สุด ให้คนมาลงทุนที่นี่ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะรับฟังแค่ความคิดเห็นของประชาชนเท่านั้น แต่ต้องรับฟังความคิดเห็นของนักลงทุนด้วย รวมไปถึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องมาไตร่ตรองว่าสิ่งที่เขาต้องการมีผลบวกหรือลบมากกว่ากันกับประชาชน
นายเศรษฐา ระบุว่า รัฐบาลยังไม่ยืนยันว่าจะมีท่อส่งน้ำมันหรือไม่ แต่เปิดกว้างว่า อาจจะเป็นธุรกิจหนึ่งที่ให้นักลงทุนมาลงทุนตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ซึ่งต้องไปรับฟังความคิดเห็น เพื่อที่จะมาดีไซน์ให้ถูกว่า ควรจะมีอะไรบ้าง ฉะนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยังต้องมีการพูดคุยกันอีกเยอะ และคิดว่าน่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 10 กว่าปีจึงจะแล้วเสร็จ
อย่างไรก็ดี สำหรับนโยบายหลักของรัฐบาล คือเน้นการท่องเที่ยวที่มีหลายมิติที่เกี่ยวข้อง โดยใช้คำว่า “ควิกวิน” แต่ก็ไม่ได้อยากใช้เท่าไหร่ ทั้งนี้ใช้คำว่าอะไรทำได้ทำไปก่อนดีกว่า อาทิ เรื่องวีซ่าฟรีที่ใช้ไปแล้วในหลายประเทศ โดยตั้งแต่วันศุกร์นี้จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของประเทศจีนมาเซ็นเอกสารให้เป็นถาวรทั้ง 2 ประเทศ ไม่ใช่แค่ฝ่านใดฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ ทั้งนี้เคยได้เจอกับประธานสภาฯ อียู และประธานาธิบดีของเบลเยียมด้วย ซึ่งได้มีการพูดคุยถึงเรื่องวีซ่าเพื่อให้เข้าออกฟรีได้ทั้งสองประเทศเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังจะมีการยกระดับประเทศไทยให้เป็น (Aviation Asian Hub) โดยจะยกระดับตั้งแต่สายการบิน, การเข้าเมือง, การขนส่งกระเป๋า, จัดการบินใหม่, ขยายแอร์พอร์ตในเมืองรอง หรือเพิ่มแอร์พอร์ตในเมืองหลัก ซึ่งการต้องการยกระดับประเทศไทยให้เป็น Aviation Asian Hub นั้น เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องทำไม่เช่นนั้นจะไปสู่จุดศูนย์กลางไม่ได้