โบรกเชียร์ “ซื้อ” SCGP เป้า 44 บาท จับตารายได้ปีนี้ 1.34 แสนล้าน ดันกำไร 6.34 พันล้าน

CLSA แนะนำ “ซื้อ” หุ้น SCGP ราคาเป้าหมาย 44 บาท คาดรายได้ปี 67 แตะ 1.34 แสนล้านบาท และเติบโตเพิ่มขึ้นแตะ 1.41 แสนล้านบาท ในปี 68 ส่วนกำไรคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 6.34 พันล้านบาท และ 7.17 พันล้านบาท ตามลำดับ


บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CLSA ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ผลประกอบการโดยรวมในไตรมาส 4 ของ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ปรับตัวดีขึ้นทั้งจากไตรมาสก่อน และปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิของ SCGP ในไตรมาส 4 นั้นน้อยกว่าคาดการณ์ของ CLSA ราว 12% จากปริมาณยอดขาย และรายได้ที่ลดลงมากกว่าคาด โดยตัวเลขหลักๆ ของธุรกิจจากผลประกอบการได้แก่

1) ปริมาณยอดขายกระดาษบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน แตะ 980,000 ตัน แต่ต่ำกว่าที่ CLSA คาดการณ์ไว้ที่ 1 ล้านตัน โดยการเพิ่มขึ้นนั้นมาจากตลาดในประเทศและส่งออกที่ดีขึ้น

2) ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร (IPB) โต 2% จากไตรมาสก่อน แต่หดตัว 5% เทียบกับปีก่อน จากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้จากสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ (Fibrous Chain) ทรงตัวจากไตรมาสก่อน จากยอดขายที่อ่อนตัวสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารจากหน้าหนาวในยุโรป

3) EBITDA อยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน, โต 23% จากปีก่อน) จากดีมานด์ที่สูงขึ้นในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในช่วงสิ้นปี โดย EBITDA มาร์จิ้นอยู่ที่ 14% เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน

โดยจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ค่าเสื่อม และค่าใช้จ่ายทางภาษี ส่งผลให้กำไรในไตรมาส 4 อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท (ลดลง 8% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 171% จากปีก่อน) และมีกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท (ลดลง 10% จากปีก่อน)

ขณะที่ ดีมานด์จากจีนเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นในไตรมาส 4 โดยนำเข้ากระดาษสำหรับบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นแตะ 840,000 ตัน เทียบกับ 740,000 ตันในไตรมาส 3 ซึ่งรายได้ของ SCGP นั้น 7% มาจากการส่งออกไปยังจีน

ทั้งนี้ SCGP เพิ่มการใช้งานพลังงานทางเลือกแตะ 36% ในปี 2023 จาก 30.6% ในปี 65 ทำให้มีการประหยัดต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 850 ล้านบาท และรวมกับการประหยัดต้นทุนจากการรีไซเคิลกระดาษส่งผลให้การประหยัดต้นทุนทั้งหมดอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท และช่วยหักลบผลลบจากความผันผวนของราคาได้

อย่างไรก็ตาม SCGP เตรียมที่จะซื้อหุ้นอีก 44.5% ที่เหลือใน Fajar มูลค่า 2.23 หมื่นล้านบาทในเดือนมิ.ย.นี้ โดยฝ่ายบริหารยังคงอยู่ระหว่างการผู้คุยเนื่องจากผู้ขายอาจจะไม่ขายหุ้นออกทั้งหมด และหาก SCGP สามารถซื้อหุ้นเพิ่มเข้ามาได้ บริษัทคาดว่าจะขายสัดส่วนนี้ไปให้กับพาร์ทเนอร์รายอื่น

ดังนั้น จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 44 บาท โดยมองว่ารายได้ในปี 67-68 จะอยู่ที่ 1.34 แสนล้านบาท และ 1.41 แสนล้านบาทตามลำดับ ส่วนกำไรคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 6.34 พันล้านบาท และ 7.17 พันล้านบาท ตามลำดับ

Back to top button