AOT เด้ง 1% รับลูก “สุริยะ” จ่อชงครม.ขยาย “สนามบินอันดามัน” รองรับนทท. โบรกชูเป้า 76 บ.

AOT เด้ง 1% รับลูก หลัง “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เตรียมชง ครม. ขยายสนามบินอันดามัน รับยอดนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น โบรก แนะนำซื้อสะสม ราคาเป้าหมาย 76 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (29 ม.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ณ เวลา 14:31 น. เปิดตลาดช่วงภาคบ่ายอยู่ ที่ระดับ 60.25 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.26% สูงสุดที่ระดับ 60.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 59.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,518.29 ล้านบาท

ทั้งนี้ราคาหุ้น AOT ปรับตัวขึ้นตอบรับข่าวนายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าจากการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ซึ่งปัจจุบัน บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. อยู่ระหว่างพัฒนาขยายท่าอากาศยานภูเก็ตระยะที่ 2 เพื่อขยายขีดความสามารถรองรับการให้บริการทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 18 ล้านคนต่อปี โดยเน้นย้ำให้มีการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งทางบกที่จะเชื่อมต่อถึงสนามบินเพื่อให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกมากที่สุดด้วย

นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่ บริเวณที่จะก่อสร้าง ท่าอากาศยานภูเก็ตแห่งที่ 2 ที่ จังหวัดพังงา หรือท่าอากาศยานอันดามัน( Andaman International Airport) โดย ทอท. อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมฯ ทั้งนี้ เมื่อท่าอากาศยานอันดามันก่อสร้างแล้วเสร็จมีแนวคิดที่จะปรับรูปแบบการให้บริการระหว่างท่าอากาศยานภูเก็ตและท่าอากาศยานอันดามันใหม่เพื่อให้มีศักยภาพในการรองรับมากขึ้น โดยจะให้ท่าอากาศยานภูเก็ตรองรับเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศเส้นทางระยะสั้นในภูมิภาค ส่วนท่าอากาศยานอันดามันจะรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศระยะทางไกลที่เป็นเส้นทางบินตรงเป็นหลัก โดยจะยังมีเที่ยวบินภายในประเทศบางส่วนอยู่ด้วยเพื่อใช้ในการเชื่อมต่อกับเส้นทางระหว่างประเทศ

ด้านนายกีรติ  กิจมานะวัฒน์  ผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า AOT รับนโยบาย รมว.คมนาคมมาดำเนินการ โดยวางแผนรูปแบบการบริหารจัดการท่าอากาศยานภูเก็ตและท่าอากาศยานอันดามัน ซึ่งตั้งอยู่ห่างกันประมาณ 23.4 กม.โดยใช้เวลาในการเดินทางไม่เกิน 15 -20 นาทีผ่านสะพานสารสินที่เชื่อมจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา นอกจากนี้จะจัดระบบขนส่งเชื่อมระหว่าง 2 สนามบินนี้ให้ผู้โดยสารมีความสะดวกมากที่สุดอีกด้วย

ปัจจุบันท่าอากาศยานภูเก็ตมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารที่ 12.5 ล้านบาทคนต่อปีมี 1 ทางวิ่ง (รันเวย์) รองรับได้ 20 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และมี 25 หลุดจอด ทอท.อยู่ระหว่างขยายรันเวย์เพื่อเพิ่มการรองรับเป็น 25 เที่ยวบินต่อชั่วโมง แต่เนื่องจากพื้นที่มีข้อจำกัดจึงไม่สามารถเพิ่มรันเวย์ที่ 2 ได้ทำให้ขีดความสามารถรองรับเที่ยวบินยังจำกัด ซึ่งปัจจุบันมีเที่ยวบินเกือบเต็มขีดการรองรับของรันเวย์แล้ว การก่อสร้างท่าอากาศยานอันดามันจังหวัดพังงาจึงตอบโจทย์

ในระยะยาวเมื่อก่อสร้างท่าอากาศยานอันดามันแล้วเสร็จจะย้ายบริการผู้โดยสารระหว่างประเทศในส่วนของเที่ยวบินตรง(Direct Flight) แบบ long-haul flight จากท่าอากาศยานภูเก็ตไปท่าอากาศยานอันดามันเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการบินเชื่อมเส้นทางระยะไกล และยังมีเที่ยวบินภายในประเทศด้วยแต่ไม่มากสำหรับรองรับผู้โดยสารเชื่อมต่อกับเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ ส่วนท่าอากาศยานภูเก็ตก็ยังคงมีเที่ยวบินระหว่างประเทศแต่จะเป็นในรูปแบบPoint to Point แบบเส้นทางในภูมิภาค(regional)โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นผู้ศึกษาคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่ายังคงแนะนำ “ซื้อสะสม” AOT ราคาเป้าหมาย 76 บาท คาดการณ์ว่ากำไรไตรมาส1/67 ( ต.ค. – ธ.ค. 66 ) ยังฟื้นตัวได้ดีทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ จากไตรมาสก่อนหน้าสะท้อนได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง โดย 3 สัปดาห์แรกของเดือนม.ค. มีนักท่องเที่ยวสะสมแล้ว 2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 47เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยนักท่องเที่ยวจีนนำเป็นอันดับ 1 เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน และได้ประโยชน์จากฟรีวีซ่าถาวรของไทย-จีนและเทศกาลตรุษจีน ซึ่งคาดการณ์จะเห็นการเร่งตัวของนักท่องเที่ยวจีน ในช่วงดังกล่าวเนื่องจากประเทศไทยยังคงเป็น Top of mind ในการท่องเที่ยวของชาวจีน คาดการณ์จะช่วยให้กำไรทั้งปี 67 เติบโตเกิน 35%

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุยังคงแนะนำ “ซื้อ” AOT ให้ราคาเป้าหมาย 74 บาท โดยมองว่าผลประกอบการไตรมาส 1/67 ยังคงเติบโตต่อเนื่องมีกำไรสุทธิมากกว่า 5,000 ล้านบาท หลังจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 28.9 ล้านคน

นอกจากนี้ AOT ยังมีปัจจัยบวกเรื่องการท่องเที่ยวที่พื้นตัวซึ่งภาครัฐฯ มีการประเมินนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 34 -35 ล้านคน จากระดับ 28 ล้านคนในปี 66

Back to top button