“พาณิชย์” ตั้งเป้าส่งออก “ข้าวไทย” ปี 67 แตะ 7.5 ล้านตัน
“กระทรวงพาณิชย์” ตั้งเป้าส่งออกข้าวไทยปีนี้แตะ 7.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 44% พร้อมจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกิจ เจรจาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ เร่งเพิ่มขีดความสามารถตลาดข้าวไทยสู่ระดับโลก
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2567 กรมการค้าต่างประเทศ คาดการณ์ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยว่า เป้าหมายการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ จะอยู่ที่ 7.5 ล้านตัน ขณะที่ข้อมูลใบอนุญาตส่งออกข้าว ล่าสุดพบว่าตั้งแต่วันที่ 1-30 ม.ค.67 มีปริมาณส่งออก 1,122,358 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 43.96%
ทั้งนี้ ปัจจัยท้าทายที่สำคัญต่อการคาดการณ์เป้าหมายส่งออกข้าวไทยในปี 2567 ได้แก่
- ผลผลิตข้าวของไทย ที่คาดการณ์ว่าจะลดลงจากปีก่อน 5.87% ซึ่งเป็นผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ
- การส่งออกที่อาจเผชิญกับการแข่งขัน และความท้าทายหลายประการ โดยมีปัจจัยจากปริมาณผลผลิตข้าวโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน ทำให้ปริมาณอุปทานข้าวโลกเพิ่มขึ้น
- การนำเข้าข้าวของประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มปรับตัวลดลง ส่วนหนึ่งเกิดจากความนิยมของการบริโภคข้าวลดลง อาทิ จีน ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ทำให้การแข่งขันทางด้านราคารุนแรงขึ้น ขณะที่ไทยมีต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูง ทำให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าประเทศผู้ผลิตและประเทศผู้ส่งออกเช่น จีน เวียดนาม และอินเดีย
- มีสัญญาณว่าอินโดนีเซียอาจซื้อข้าวน้อยกว่าปีที่ผ่านมา เพราะมีข้าวค้างสต็อกจากปี 2566 ค่อนข้างมาก
- จีนมีการผลิตข้าวมากขึ้น และเริ่มปรับเปลี่ยนจากการเป็นผู้นำเข้าข้าว ให้เป็นผู้ผลิตข้าวที่เพียงพอต่อการบริโภคของประชากรและอาจส่งออกในอนาคต
- อินเดียอาจประกาศยกเลิกการระงับการส่งออกข้าวขาวฯ ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนของอินเดีย กลับมาส่งออกข้าวได้เสรีตามปกติ
นอกจากนี้ นายรณรงค์ กล่าวเพิ่มว่า แนวทางรับมือกับความท้าทายในการขายข้าวให้ประเทศคู่ค้า ในประเด็นที่ราคาข้าวไทยสูงกว่าราคาข้าวของประเทศผู้ส่งออกรายอื่น อันเนื่องมาจากต้นทุนการผลิตที่สูง ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ไทยต้องเร่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก โดยพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีผลผลิตต่อไร่สูง ไม่ควรน้อยไปกว่าผลผลิตข้าวต่อไร่ของประเทศผู้ส่งออกอื่น ซึ่งปัจจุบันมีผลผลิตต่อไร่สูงกว่าไทยทั้งสิ้น ประกอบกับพันธุ์ข้าวต้องมีความต้านทานโรคและแมลง เพื่อลดต้นทุนการใช้ปุ๋ย และการกำจัดแมลง
“หากไทยไม่มุ่งเน้นพัฒนา ปรับปรุง ในเรื่องดังกล่าว จะทำให้ไทยเสียเปรียบในการแข่งขันทางการค้าข้าวในตลาดโลกในที่สุด” นายรณรงค์ กล่าว
โดยระบุอีกว่า กรมการค้าต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อส่งเสริมและผลักดันการส่งออกข้าวไทยตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในการ “รักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่” ในการส่งออกไปต่างประเทศ โดยกิจกรรมหลักที่จะจัดขึ้นในปีนี้ ประกอบด้วย การจัดงานประชุมข้าวนานาชาติ Thailand Rice Convention (TRC) 2024 ในเดือนพ.ค.67 ซึ่งเป็นงานประชุมใหญ่ที่ผู้เชี่ยวชาญในวงการค้าข้าวโลกมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวโลกและเจรจาธุรกิจระหว่างกัน รวมทั้งจะมีการจัดงาน TRC สัญจร ลงพื้นที่เพื่อให้ข้อมูลแนวโน้มความต้องการข้าวในตลาดโลกแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถผลิตข้าวได้ตรงกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ กรมฯ มีแผนเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์ และขยายตลาดข้าวกับแอฟริกาใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตลาดข้าวที่สำคัญอันดับต้นๆ ของไทย รวมทั้งการเจรจาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) กับรัฐบาลอินโดนีเซีย และจีน รวมถึงประเทศอื่นที่มีความประสงค์ขอซื้อข้าวในรูปแบบ G to G ตลอดจนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่สำคัญ และจัด Thai Rice Roadshow ประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตลาดจีนด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2566 มีปริมาณการส่งออกถึง 8.76 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 178,136 ล้านบาท (ประมาณ 5,144 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ทำได้เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 8 ล้านตัน โดยหากเทียบกับปี 2565 แล้ว พบว่าปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 13.62% ขณะที่มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 28.43%