TOP-SPRC ท็อปพิก! รับค่าการกลั่นพุ่ง หลัง “บีพี” ปิดซ่อมบำรุงโรงน้ำมันวิทติ้ง
CGS-CIMB แนะนำ “ซื้อ” TOP-SPRC หลังโรงกลั่นบริษัทบีพีในสหรัฐฯ ประกาศปิดซ่อมบำรุงโรงน้ำมันวิทติ้งสาเหตุไฟฟ้าขัดข้อง ส่งผลให้ของราคาแก๊สโซลีน-ค่าการกลั่นพุ่งขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี จำกัด หรือ CGS-CIMB ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หลังจากบริษัทบีพีประกาศปิดโรงกลั่นน้ำมันวิทติ้ง (Whiting) ในรัฐอินดีแอนาของสหรัฐปิดซ่อมชั่วคราวเมื่อวานนี้ ซึ่งสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าขัดข้องจนเกิดประกายไฟขึ้น ส่งผลให้จำเป็นต้องอพยพพนักงานออกจากโรงกลั่นดังกล่าว ซึ่งมีกำลังการกลั่นจากหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ (Crude Distillation Unit : CDU) อยู่ที่ 440,000 บาร์เรลต่อวัน และคิดเป็น 2.4% ของกำลังการกลั่นทั้งหมดของสหรัฐ
นอกจากนี้ยังมีโรงกลั่นอีกหลายแห่งนอกชายฝั่งที่ยังต้องลดการใช้งานลงเหลือราว 88% จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม จากช่วงต้นเดือนอยู่ที่ 93% พอปิดชั่วคราวของโรงกลั่น BP ในครั้งนี้ จะยิ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์จากการกลั่นในตลาดยิ่งตึงมากขึ้น และทำให้การส่งออกของสหรัฐลดลง
ขณะที่ค่าพรีเมียมน้ำมันดิบ หรือส่วนต่างราคาน้ำมันดิบที่ซื้อจริงกับราคาน้ำมันดิบดูไบ (Crude Premium) ของน้ำมันดิบ Murban สำหรับสัญญาเดือนมีนาคม มีการปรับตัวสูงขึ้นแตะ1.18 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับช่วงเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 0.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม Crude Premium เฉลี่ยนในไตรมาส 1/2567 ยังคงอยู่ที่ 1.13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในไตรมาส1/2566 อยู่ที่ 2.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล ซึ่งยังคงเป็นผลดีต่อกลุ่มโรงกลั่นไทย
อย่างไรก็ตามจากประเด็นข้างต้นยังคงแนะนำ “ซื้อ” บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC
ทั้งนี้คาดการณ์ว่า TOP จะแตะระดับ 8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับ 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาส 4/2566 และ SPRC จะอยู่ที่ 5.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับ 2 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาส 4/2566 เนื่องจากในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนต่างของราคาดีเซล และแก๊สโซลีน ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง 23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และ 17 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อีกทั้งมองว่าจากเหตุการณ์ปิดโรงกลั่นใดๆ ที่อยู่นอกเหนือกำหนดการซ่อมบำรุงปกติ จะเป็นผลดีต่อค่าการกลั่นในปีนี้ตลอดปี