“เอกภาวิน” คัด 10 หุ้นน่าลงทุน ธีมเบต้าต่ำ-ปันผลเด่น
“เอกภาวิน สุนทราภิชาติ” มอง SET ยังผันผวน นักลงทุนจับตาการประชุมอัตราดอกเบี้ย “กนง.” วันที่ 7 ก.พ.นี้ โดยคัด 10 หุ้นเด่น ธีมเบต้าต่ำ-ปันผล-เรตติ้ง ESG สูง ให้กรอบดัชนีแนวต้าน 1,390-1,400 จุด แนวรับ 1,360-1,370 จุด
นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด หรือ INVX เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (5 ก.พ. 67) ว่าจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีการส่งสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนว่ายังคงไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือน มี.ค. เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง อีกทั้งตลาดในช่วงนี้มีภาพของค่าเงินดอลลาร์ที่มีการอ่อนตัว ส่วนเงินบาทกลับมาแข็งค่า ขณะที่บอนด์ยีลด์มีการปรับลง ส่งผลให้มีภาพของตลาดหุ้นไทยมีฟันด์โฟลว์ไหลเข้าในช่วงวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมานั้นเอง
ขณะที่มีการคาดการสถานการณ์วันนี้ว่า ค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสกลับมาแข็งค่า ส่วนเงินบาทอาจอ่อนค่าอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับค่าเงินในเอเชียมีการอ่อนค่าลง ซึ่งอาจทำให้บอนด์ยีลด์มีการปรับตัวขึ้นอีกครั้ง โดยจะส่งผลให้ภาพของ SET Index มีโอกาสย่อตัวลงได้หลังจากปรับตัวขึ้นดีก่อนหน้า ขณะเดี่ยวกันตลาดหุ้นไทยนั้นยังคงขาดปัจจัยใหม่หนุน อีกทั้งรายได้และแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 ก็ยังคงมีบางกลุ่มที่มีแนวโน้มทำกำไรต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้ามาก่อนหน้านี้ก็อาจจะกลับมาเป็นภาพของการไหลออก
นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังคงจับตาการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธที่ 7 ก.พ. 67 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นภาพของการคงอัตราดอกเบี้ยเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามคาดว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีในวันนี้ให้กรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,390-1,400 จุด การที่ตลาดยังคงขาดปัจจัยหนุนก็อาจทำให้จะขึ้นไปแตะ 1,400 จุดนั้นยังคงยากอยู่ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,360-1,370 จุด แต่ถ้าหากลงไปต่ำกว่านี้ก็จะเห็นภาพของตลาดลงไปทดสอบแนวเดิมที่ระดับ 1,353 จุด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้แนะนำเป็นการลดพอร์ตหรือขายทำกำไรออกเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นๆ หรือใครที่เป็นนักลงทุนระยะกลางยาวต้องมีการเตรียมตัวเยอะๆ เนื่องจากมองแล้วตลาดยังคงมีความผันผวนอยู่ ตราบใดที่เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังมีความไม่ชัดเจนอยู่
ทั้งนี้แนะนำเก็งกำไร “หุ้นกลุ่มที่เบต้าต่ำกว่า 1” อาทิ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS และหุ้นกลุ่มปันผลเด่น อาทิ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB
พร้อมกับแนะนำเก็งกำไรระยะกลางในกลุ่มผู้นำด้านอุตสาหกรรม และมี ESG เรตติ้งอยู่ในระดับ AAA และ AA ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC