MCA บวก 3% ตอบรับข่าวเป้ารายได้ Q1 ออลไทม์ไฮ หลังตุนแบ็กล็อก 240 ล้านบาท
MCA บวก 3% รับข่าวไตรมาส 1/66 ส่อแววทำ “ออลไทม์ไฮ” หลังตุน “แบ็กล็อก” 240 ล้านบาท ลุ้นทั้งปีรายได้แตะ 614 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (6 ก.พ. 67) ราคาหุ้น บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA ณ เวลา 10:13 น. เปิดตลาด ที่ระดับ 2.62 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.15% สูงสุดที่ระดับ 2.68 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36.42 ล้านบาท
นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA เปิดเผยว่า ภาพรวมบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศ อาทิ นักท่องเที่ยวคึกคักขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยการได้รับสัญญาจากคู่ค้าระยะยาว ทำให้คาดการณ์ว่าในปี 2567 รายได้และกำไรสุทธิจะเติบโตแข็งแกร่ง
โดยในปัจจุบันบริษัทได้มีการเซ็นสัญญางานในมือ (Backlog) ไปแล้วจำนวน 240 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงเดือนม.ค. 2567 ที่ผ่านมามีการเซ็นสัญญาไปประมาณ 120 ล้านบาท ซึ่งร่วมจากการปิดดีลเซ็นสัญญาจากเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2566 มาด้วย อย่างเช่น บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด มีมูลค่า 80 ล้านบาท
ตามด้วย บริษัท แลคตาซอย จำกัด, บริษัท มาร์เวลล์ 24 จำกัด และ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG โดยนับเป็นสัญญายะระยาว 1 ปี เฉลี่ยสัญญากว่า 10 ล้านบาท และบริษัทสยามเฮลท์ กรุ๊ป จํากัด มูลค่าปีละประมาณ 60 ล้านบาท ในธุรกิจยาสีฟันยาสีฟันเดนทิสเต้ และโฟมล้างหน้าสมูทอี เป็นต้น
นอกจากนี้เริ่มต้นปี 2567 บริษัทได้เซ็นสัญญาเพิ่มจากบริษัท บริษัท มอคโคน่า (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีมูลค่า 100 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้เฉลี่ยปีละกว่า 30 ล้านบาท ภายใน 3 ปี และเซ็นสัญญาเพิ่มกับบริษัท โจตันไทย จำกัด โดยจะมีการเซ็นสัญญา 1 ปี มูลค่า 40 ล้านบาท
“สำหรับการที่มีการเซ็นสัญญางานเข้ามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ผนวกกับการได้งานใหม่ในช่วงต้นปีค่อนข้างมากดูจากแบ็กล็อก 240 ล้านบาท ที่มีอยู่เต็มมือจากงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าไตรมาส 1/2567 มีโอกาสเห็นรายได้ทำออลไทม์ไฮ” นายภักดี กล่าวอีกว่า
นายภักดี กล่าวอีกว่า ภาพรวมบริการ Distributor ในปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ในส่วนนี้อยู่ที่ 50 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 5 ล้านบาท ภายในกลางปีหากรายได้เป็นไปตามที่คาดจะมีการเรียกนักวิเคราะห์มีปรับเป้าอีกครั้ง
ทั้งนี้บริษัทมีคู่ค้าอยู่ในมือประมาณ 15 บริษัท รวมประมาณ 20 แบรนด์ ส่วนโครงสร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วนกิจกรรมทางการตลาด ได้แก่กิจกรรมด้านการตลาดและดิจิทัล 10%, พนักงานจัดเรียงสินค้าและพนักงานแนะนำสินค้า 55-60% และกิจกรรมทางตลาดอื่น อาทิ โรดโชว์ อีเว้นท์ประมาณ 15-20%
“อย่างไรก็ตามจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2567 เติบโต 30% อยู่ที่ระดับ 614 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะทำได้ตามเป้าที่ว่างไว้ รวมถึงจะพยายามรักษาฐานลูกค้าไว้ให้ได้” นายภักดี กล่าวทิ้งท้าย