PTG ผนึก “ไทยไพบูลย์” รุกบริหาร-ผลิตเชื้อเพลิงขยะ วางเป้า 3 ปีกำลังผลิต 4,000 ตันต่อวัน

PTG ร่วมทุน “ไทยไพบูลย์” รุกธุรกิจบริหารจัดการและผลิตเชื้อเพลิงขยะ มูลค่ารวม 400 ล้านบาท คาดมีสิทธิเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนสัดส่วน 33.33% ภายในปี 68 ตั้งเป้า 3 ปี (66-68) กำลังผลิตแตะ 4,000 ตันต่อวัน รองรับแผน 5 ปี เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจนอนออยล์


นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท ไทยไพบูลย์ อีควิปเม้นท์ จำกัด ในการดำเนินงานธุรกิจบริหารจัดการและผลิตเชื้อเพลิงขยะ (Refuse Derived Fuel: RDF) เพื่อสนับสนุนแผนธุรกิจ 5 ปีของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายพอร์ตธุรกิจ Non-Oil ให้เติบโตในอนาคต

โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของไทยไพบูลย์ฯ ในครั้งแรกสัดส่วนไม่น้อยกว่า 10% คิดเป็นมูลค่าลงทุนไม่เกิน 103 ล้านบาท ซึ่งในอนาคตบริษัท PTG จะมีสิทธิเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของไทยไพบูลย์ฯ สัดส่วนครบ 33.33% ภายในปี 2568 คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณการตลอดโครงการทั้งสิ้น 400 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของไทยไพบูลย์

สำหรับธุรกิจ Renewable Energy เป็น 1 ใน 8 ธุรกิจหลักที่ PTG ตั้งเป้าที่จะเข้าลงทุน เพื่อให้ธุรกิจ Renewable Energy เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ รวมถึงต่อยอดและขยายธุรกิจจากที่ PTG ได้เข้าสู่ธุรกิจบริหารและจัดการขยะในปี 2565 โดยเป็นคู่สัญญากับเทศบาลเมืองบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สำหรับการก่อสร้างและบริหารจัดการโครงการกำจัดขยะมูลฝอยเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากชุมชน รวมถึงมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 4.5 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลา และรอใบอนุญาต รวมถึงโควต้าของภาครัฐ

“บริษัทฯ เล็งเห็นว่าการร่วมกับไทยไพบูลย์ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการขยะมูลฝอยจากชุมชน อย่างครบวงจร และผลิตเชื้อเพลิงขยะ (RDF) สำหรับทดแทนเชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming) ไทยไพบูลย์มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับต้น ๆ ในธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) โดยทีมผู้บริหารมีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่อยากเห็นชุมชนและคนในสังคมมีชีวิตที่ อยู่ดี มีสุข จากการบริหารจัดการขยะได้อย่างถูกวิธี ส่งผลให้ชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้มีความเป็นอยู่อย่างถูกสุขลักษณะ และเป็นช่องทางการเติบโตในอนาคตจากการต่อยอดไปยังธุรกิจอื่น เช่น ธุรกิจบริหารจัดการขยะรีไซเคิล และธุรกิจคาร์บอนเครดิตได้” นายพิทักษ์ กล่าว

ด้าน นายไพบูลย์ คุ้มคำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยไพบูลย์ อีควิปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ PTG ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นผู้นำด้านบริการในธุรกิจพลังงานครบวงจรของประเทศ เพื่อร่วมกันผลักดันและส่งเสริมการจัดการขยะที่สำคัญคือ มีความมุ่งมั่นเดียวกันในการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ในการจัดการขยะตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งมั่นใจว่าความร่วมมือของทั้ง 2 บริษัทในครั้งนี้จะถือเป็นองค์กรต้นแบบที่ช่วยผลักดันให้เกิดการจัดการ และสนับสนุน สร้างความร่วมมือในทุกภาคส่วนในการแยกขยะใช้แล้วอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า ส่งผลดีต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและโลกได้ในระยะยาว

โดยการคัดกรองแยกขยะในครั้งนี้ จะสามารถต่อยอดพลาสติก รวมถึงขวดแก้ว ซึ่งอาจจะนำไปรีไซเคิลได้ดี เพื่อจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น  ซึ่งปัจจุบันผลิตขยะเชื้อเพลิง (RDF) บริษัทผลิตอยู่ที่ 1,500-2,000 ตันต่อวัน โดยส่งขายให้กับโรงไฟฟ้าเป็นหลัก รวมถึงนโยบายภายใน 2-3 ปีข้างหน้า ขณะที่วางเป้าภายในอีก 3 ปีข้างหน้า (2566-2568) จะเพิ่มกำลังผลิตขยะเชื้อเพลิง RDF อยู่ที่ 3,000-4,000 ตันต่อวัน ทั้งนี้บริษัทส่งขายกระจายอยู่ในส่วนของภาคกลาง, ภาคตะวันออก, ภาคอีสาน และทางภาคเหนือ ส่วนมาร์จิ้นไม่ต่ำกว่า 15% แต่หลังจากที่บริษัทได้แหล่งเงินทุนเพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะทำให้มาร์จิ้นสูงกว่า 20%

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีอยู่ประมาณ 20 แห่ง ซึ่งภายใน 3 ปีข้างหน้าอาจจะอยู่ที่ประมาณ 30 แห่ง และมีขยะเชื้อเพลิงที่จัดการอยู่ประมาณวันละ 7,000 ตัน ส่วนที่มีปัญหาอยู่ขณะนี้ประมาณ 5,000 ตัน

สำหรับผลการดำเนินงานรวมของกลุ่มบริษัท ณ ปัจจุบัน มีรายได้ต่อปีกว่า 800 ล้านบาท และกำไรสุทธิกว่า 100 ล้านบาท  ซึ่งรายได้หลักมาจากการขายเชื้อเพลิงขยะ (RDF) และจากการบริหารจัดการขยะ

Back to top button