โบรกเชียร์ซื้อ ADVANC เป้าสูงสุด 275 บาท ชี้กำไรปี 67 ทะลุ 3 หมื่นล้าน

โบรกเชียร์ซื้อ ADVANC เป้าสูงสุด 275 บาท ลุ้นกำไรปี 67 ทะลุ 3 หมื่นล้านบาท รับยอดผู้ใช้บริการ ARPU เพิ่มขึ้น แจกปันผลในอัตราหุ้นละ 4.61 บาท กำหนดจ่าย 17 เม.ย. นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณี บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ประกาศผลการดำเนินงานปี 66 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 29,086.11 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 11.82%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 26,011.28 ล้านบาท จากปัจจัยบวกรายได้รวมอยู่ที่ 188,873 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้การให้บริการซึ่งมีผลจากการรับรู้รายได้ของ TTTBB การเติบโตของธุรกิจอินเทอร์เน็ต การฟื้นตัวของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ การเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร ชดเชยกับรายได้จากการขาย อุปกรณ์ที่ลดลงเล็กน้อย

นอกจากนี้บริษัทยังมีมติจ่ายปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค. 66 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 66 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 4.61 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 19 ก.พ. 67 และกำหนดจ่ายปันผล วันที่ 17 เม.ย. 67

ล่าสุดทางนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ระบุในบทวิเคราะห์วันที่ (7 ก.พ. 67) มีการประเมิน ADVANC ถึงแนวโน้มการเติบโตของบริษัทว่ากำไรสุทธิและกำไรจากธุรกิจหลักในไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 7 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 8% จากไตรมาสก่อนหน้า) ต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ในตลาด 9%

โดยเนื่องจากสองรายการหลักๆ ด้วยกันรายการแรกคือส่วนแบ่งผลูขาดทุนจาก 3BB สูงกว่าที่คาดไว้ โดยอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท (คาดไว้ที่ 200 ล้านบาน) เนื่องจากต้นทุนที่เกี่ยวของกับการควบรวมอย่างเช่นต้นทุนการรวมระบุรายการที่สองคือค่าใช้จ่าย SG&A สูงกว่าที่คาดไว้อย่างมาก เพราะมีการอัดโปรโมชั่น iPhone 15 และมีค่าใช้จ่ายโปรโมชันหลังเข้าไปซื้อ 3BB อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนียังมีปัจจัยบวกอีกหลายข้อโดยในข้อแรก จำนวนผู้ใช้บริการมือถือพลิกมาเป็นเพิ่มขึ้นสุทธิ (เพิ่มขึ้น 166,000 ราย) เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาสโดยเฉพาะผู้ใช้บริการระบบ prepaid

ข้อที่สองคือยอดผู้ใช้งาน ARPU เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4/66 ทั้งในส่วนของบริการมือถือ (เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.3% จากไตรมาสก่อนหน้า) และ FBB (เพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.4% จากไตรมาสก่อนหน้า) โดย ARPU เฉลี่ยในไตรมาส 4/66 ของบริการมือถืออยู่ที่ 223 บาทต่อเดือนต่อราย

ในขณะที่ ARPU ของบริการ FBB อยู่ที 434 บาทต่อเดือนต่อราย ถึงแม้ว่ากำไรในไตรมาส 4/66 จะต่ำกว่านักวิเคราะห์ประมาณการไว้แต่ DPS งวดหลังยังเป็นไปตามคาดที่ 4.61 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 2.1% สำหรับการถือหุ้นเพียง 2 สัปดาห์ (กำหนดขึ้น XD วันที่ 19 ก.พ 67)

ทั้งนี้ กำไรจากธุรกิจหลักในปี 66 อยู่ที่ 2.85 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถประหยัดต้นทุนได้ ถึงแม้ว่าผลประกอบการในไตรมาส 4/66 จะออกมาน่าผิดหวังแต่ยังคงประมาณการกำไรปี 67 ไว้เท่าเดิมที่ 3.21 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน) จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตาม ARPU และอัตรากำไรสุทธิ (net margin) ที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ADVANC โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 275 บาท คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นจาก ARPU ที่สูงขึ้นในขณะที่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปีนี้จะอยู่ที่ 4.4%

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่าหลัง ADVANC ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 7.0 พันล้านบาท แต่หากตัดรายการพิเศษออกกำไรปกติอยู่ที่ 7.1 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 7% จากไตรมาสก่อนหน้า) ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดและนักวิเคราะห์ประเมินลดลงราว 5% คาดมาจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงกว่าปกติ (ค่าการตลาด) มีปัจจัยผลักดันจากรายได้จากบริการหลัก (ไม่รวมTTTBB) อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า) Mobile ARPU อยู่ที่ 223 บาท (เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า) และ Net add 1.7 แสน subs

ในขณะที่ FBB ARPU อยู่ที่ 434 บาท (เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า) รวมถึง Net add ราว 6 หมื่น subs (หากรวม TTBB จะมี ARPU ที่ 490 บาท และ Net add 2.4 ล้านsubs) ในขณะที่ต้นทุนบริการหลัก (ไม่รวม TTTBB) ทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้าแม้การลงทุนยังมีต่อเนื่องแต่ถูกชดเชยจากค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 3G ที่ตัดครบอายุและค่าไฟฟ้าที่ลดลง ในขณะที่ SG&A (ไม่รวม TTTBB) เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมาจากค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้นช่วง high season

ทั้งนี้นักวิเคราะห์ยังมีมุมมองเป็นลบเล็กน้อยจากผลประกอบการไตรมาส 4/66 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามผลประกอบการทั้งปี 66 ยังอยู่ในกรอบที่นักวิเคราะห์และตลาดประเมิน โดยเบื้องต้นยังคงประมาณการกำไรปกติปี 67 ที่ 2.9 หมื่นล้านบาทเติบโตเล็กน้อย จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (มีโอกาสเกิด upside อย่างไรก็ตามรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงต้นปีก่อนทบทวนประมาณการ)

ขณะที่ราคาเป้าหมาย 259.00 บาท ได้รับอนิสงส์จากการใช้งาน Data ที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าจะเป็น Key driver ส่วนความเสี่ยงคือ investment cycle รอบใหม่ (5G) และการแข่งขันที่รุนแรงจะเป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการฃ

Back to top button