เปิด 7 ธีมรับ “วาเลนไทน์” ลุ้นเม็ดเงินสะพัด 2.5 พันล้าน

เปิด 7 ธีม รับเทศกาล “วาเลนไทน์” ปี 67 จับตาการใช้จ่ายของผู้บริโภคคึกคัก กระตุ้นเศรษฐกิจดีขึ้น ลุ้นเม็ดเงินสะพัด 2.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% มองบวกต่อหุ้น “โรงแรม-อาหาร-ภาพยนตร์-เครื่องประดับ-บัตรเครดิต-เครื่องใช้ส่วนตัว-บริการ”


ใกล้เข้าสู่ช่วงวันวาเลนไทน์ ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี โดยคาดการณ์ว่าบรรยากาศปีนี้ยังคงคึกคัก กระตุ้นเศรษฐกิจดีขึ้น รวมถึงมีการเฉลิมฉลอง ซึ่งนับเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่คู่รักทุกคู่ เพื่อนฝูง พี่น้อง หรือแม้แต่คนในครอบครัวจะมอบความรักให้แก่กันเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ นางสาวพรพรรณ แสงสีทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจทัศนคติพฤติกรรม และการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงวันวาเลนไทน์ ระหว่างวันที่ 29 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2567 คาดการณ์ว่าปีนี้เงินสะพัดในช่วงวันวาเลนไทน์ 2,518 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4%

ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการรวบหุ้นที่คาดว่าได้รับอานิสงส์จากเทศกาลวาเลนไทน์มานำเสนอมุมมองของการลงทุนในช่วงนี้ โดยคาดการณ์ว่าหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากเทศกาลวาเลนไทน์ ประเมินว่ายอดขายจะเติบโตแข็งแกร่งจากผู้คนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยซื้อเพิ่มมากขึ้ โดยหุ้นที่มีแนวโน้มได้ประโยชน์จากเทศกาลวาเลนไทน์แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจดังนี้

อันดับ 1 ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรม หรือศูนย์การค้า อย่าง บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ,บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ,บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น (บจ.) ดังกล่าวจะได้รับอานิสงส์เทศกาลวาเลนไทน์จากการที่ประชาชนไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด เพื่อพักผ่อน ส่งผลให้ยอดเข้าพักปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำให้รายได้ธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น

อันดับที่ 2 ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร เนื่องจากในเทศกาลวาเลนไทน์ประชาชนจะพาคู่รัก หรือครอบครัวมารับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น โดยมีมุมมองบวกต่อหุ้น บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M, บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ SNP, บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN

อันดับที่ 3 ผู้ดำเนินธุรกิจโรงภาพยนตร์ คือ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ได้รับอานิสงส์จากการที่คู่รัก และครอบครัวออกมาใช้เวลาพักผ่อนด้วยการดูภาพยนตร์ และหากิจกรรมทำร่วมกัน รวมถึงธุรกิจโบว์ลิ่งและคาราโอเกะ ธุรกิจลานสเก็ตน้ำแข็ง

อันดับที่ 4 ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับเพชรและทอง อย่าง บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE และ บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA โดยในช่วงวาเลนไทน์จะเป็นช่วงที่คู่รักส่วนใหญ่จะมอบของขวัญแก่กัน โดยเฉพาะเครื่องประดับ เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง

อันดับที่ 5 ผู้ดำเนินธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค คือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC โดยแยกเป็น 2 กลุ่มหลักคือ ธุรกิจบัตรเครดิต ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจบัตรเครดิต และธุรกิจสินเชื่อบุคคล ซึ่งคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากเทศกาลวาเลนไทน์เนื่องจากประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้น จากการให้ของขวัญแก่คู่รัก หรือครอบครัว

สำหรับกลุ่มที่ 6 ธุรกิจเครื่องใช้ส่วนตัว บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR อย่างเช่นธุรกิจผลิตถุงยางอนามัย ซึ่งปัจจุบันในตลาดก็มีอยู่หนึ่งตัวนั่นก็คือ ที่เป็นผู้รับจ้างผลิตถุงยางอนามัยและเป็นเจ้าของแบรนด์ถุงยางยี่ห้อ One Touch

อันดับที่ 7 กลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมโดยมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงข้อมูลเครือข่ายระบบขนส่งมวลชนและสื่อโฆษณา คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากคู่รัก และครอบครัวพาไปเที่ยวตามห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ต่างๆ จึงมีมุมมองบวกต่อหุ้น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM

Back to top button