“ทองนิวยอร์ก” ปิดลบ 9.2 เหรียญ หลังบอนด์ยีลด์พุ่งกดดัน
“ทองนิวยอร์ก” ปิดลบ 9.2 เหรียญ หรือปิดที่ 2,038.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น จะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดลบในวันศุกร์ (9 ก.พ.67) และปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ด้วย โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์หน้าเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อใด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 9.20 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 2,038.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 0.042 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ 22.594 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 15.80 ดอลลาร์ หรือ 1.77% ปิดที่ 878.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 22.80 ดอลลาร์ หรือ 2.56% ปิดที่ 869.30 ดอลลาร์/ออนซ์
โดยสัญญาทองคำปรับตัวลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน โดยการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
สำหรับบรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังชะลอตัวสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนมี.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.