CRC ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 11% วางงบ 2.4 หมื่นล้าน ลุยขยายสาขาไทย-ต่างประเทศ

CRC ประกาศวิสัยทัศน์ 5 ปี “CRC OMNI-Intelligence ดันธุรกิจสู่ The Next Era พร้อมวางงบลงทุน 2.2-2.4 หมื่นล้านบาท เดินหน้าขยายร้านครอบคลุม 42 จังหวัด ปักหมุดรายได้ปี 67 เติบโต 9-11% วางเป้าอีบิทด้าเติบโต 15-17%


นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า แนวโน้มแผนงานปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 9-11% และวางเป้าอีบิทด้าเติบโต 15-17% ทั้งนี้วางงบลงทุนอยู่ที่ 22,000-24,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนลงทุนในไทยอยู่ที่ 70-80% และต่างประเทศอยู่ที่ 20% ซึ่งจะเน้นไปในประเทศเวียดนาม และอิตาลี โดยมีแผนการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจดังต่อไปนี้

1.กลุ่มแฟชั่น การพัฒนาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แฟล็กชิปสโตร์ สาขาชิดลม สู่การเป็น World Class Luxury Destination รวมถึงการขยายสาขาเพิ่ม 2 แห่ง พร้อมรีโนเวทและอัพเกรดห้างอีก 4 แห่ง ตลอดจนมีแผนเพิ่มแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และนำแบรนด์ในไทยขยายไปยังเวียดนาม

2.กลุ่มฟู้ด เดินหน้าขยาย Go Wholesale อีก 7 สาขา นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขา Tops รวม 10 สาขาในไทย สำหรับประเทศเวียดนาม มีแผนเปิด ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! จำนวน 3 สาขา และ go! (มินิ โก) อีก 9 สาขา ซึ่งถือเป็น Winning Format ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

3.กลุ่มฮาร์ดไลน์ เดินหน้าขยายสาขาไทวัสดุ 9 สาขา พร้อมรีโนเวทอีก 4 สาขา และได้ทรานส์ฟอร์มเหงียนคิมในเวียดนามให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

4.กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีการพัฒนาและปรับปรุงสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนศูนย์การค้า GO! ในเวียดนาม มีแผนขยายสาขาอีก 3 สาขา โดยตั้งเป้าปิดปี 2567 ด้วยจำนวน 42 สาขาครอบคลุม 42 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ

ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าสู่ The Next Era ด้วยวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intlelligence โดยการนำ AI เข้าไปในทุกกระบวนการของการทำธุรกิจ อาทิ การสร้าง Next-Gen Omnichannel ที่ผนวกแพลตฟอร์มออฟไลน์และออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน

สำหรับ เซ็นทรัล รีเทล สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับกระแส Disruption ทั้งจากเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค การเข้ามาของ Generative AI และ Climate Change แต่ด้วยอีโคซิสเต็มของเซ็นทรัล รีเทล ที่สมบูรณ์แบบ มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ มีเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง จากการบริหารต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

รวมถึงการเป็นองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชีย โดยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ DJSI และได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ประจำปี 2566 ในระดับ “AAA” ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดของไทย จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้เซ็นทรัล รีเทล ประสบผลสำเร็จและสามารถครองความเป็นผู้นำในทุกกลุ่มธุรกิจ

โดยในปี 2567 นี้ เซ็นทรัล รีเทล ได้วางกลยุทธ์บนคอนเซ็ปต์ของ Leading Excellence and Advancing Sustainability คือ การบริหารธุรกิจทุกกลุ่มของเซ็นทรัล รีเทล ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ด้วยผลประกอบการและผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม (Excellence Performance) ในทุกมิติ รวมทั้งมีการวางกลยุทธ์เรื่องการสร้างความยั่งยืน ให้เข้มข้นไปอีกขั้น (Advance Sustainability)

“นอกเหนือจากการสร้างความเป็นเลิศทางธุรกิจแล้ว เรื่องความยั่งยืนก็เป็นอีกหนึ่งแกนหลักที่ เซ็นทรัล รีเทล ให้ความสำคัญมาตลอด โดยปีนี้เราจะต่อยอดเรื่องความยั่งยืนไปอีกขั้น ผ่านการดำเนินงานบนปรัชญา CRC Care ที่พร้อมผลักดันธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า และดูแลทุกภาคส่วนให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกันแบบ 360 องศา อาทิ การยกระดับเมืองรอง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรากฐานที่แข็งแรง” นายญนน์ กล่าว  

Back to top button