JMART เด้งนำกลุ่ม! ตั้งเป้าปี 67 กำไรนิวไฮ มั่นใจ JMT-สุกี้ตี๋น้อยหนุน
JMART เด้งนำกลุ่ม! รับแผนเร่งปรับกลยุทธ์ ดันผลงานฟื้นตัวต่อเนื่อง พร้อมผนึกกำลังบริษัทในเครือสร้างฐานกำไรแข็งแกร่ง ชู JMT- TEENOI ส่งซิกปีนี้นิวไฮตามเป้า เผยกระแสเงินสดในมือแน่น พร้อมจ่ายหุ้นกู้บริษัทและบริษัทย่อย ในปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.พ. 67) ปิดตลาดภาคเช้าราคาหุ้นกลุ่มเจมาร์ทดีดตัวขึ้นร้อนแรง นำโดยบริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 16.20 บาท บวก 1 บาท หรือ 6.58% สูงสุดที่ระดับ 16.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 15.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 326.12 ล้านบาท
บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 24.70 บาท บวก 2.00 บาท หรือ 8.81% สูงสุดที่ระดับ 25.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 23.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,748.14 ล้านบาท
บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.14 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 7.54% สูงสุดที่ระดับ 2.28 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.99 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.36 ล้านบาท
บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 10.60 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.91% สูงสุดที่ระดับ 10.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 126.09 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้น บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.44 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 3.60% สูงสุดที่ระดับ 1.47บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.43 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 19.36 ล้านบาท
ด้านนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 4/2566 พลิกทำกำไรต่อเนื่องอยู่ที่ 166 ล้านบาท โดยหากไม่รวมรายการ Unrealized Loss จากราคาหุ้นจะมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 276 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 13,743 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 447 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการ Unrealized Loss จากการ Mark to Market ของราคาหุ้น บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 396 ล้านบาท สะท้อนทิศทางการฟื้นตัวหลังจากได้รับผลกระทบปัญหาการตั้งสำรองหนี้ด้อยคุณภาพของบริษัทในกลุ่ม SINGER ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทได้ให้ความสำคัญในการปรับกลยุทธ์และแก้ปัญหาดังกล่าว โดยปัจจุบันได้ปรับตัวดีขึ้นแล้ว ทำให้ JMART มั่นใจเป้าหมายปี 2567 พร้อมเดินหน้าต่อตั้งเป้าหมายผลงาน New High ด้วยการผสานพลังบริษัทในกลุ่ม และส่งผลกำไรเชิงบวกกลับมาให้ที่ JMART โดยโครงสร้างของกลุ่มเน้นเรื่องคอมเมิร์ซ ไฟแนนซ์ และเทคโนโลยี
โดยในปีนี้ JMART ชู 3 กลยุทธ์หลัก ที่เป็น Key Message คือ (1) ตั้งเป้าหมายกำไรทำ New High จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัทที่เป็นพระเอกในกลุ่มอย่าง บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT โดยคาดการณ์ทำนิวไฮทั้งในด้านการจัดเก็บกระแสเงินสดและกำไร (2) การเข้าไปลงทุนที่คุ้มค่าจากสุกี้ตี๋น้อย (TEENOI) ในสัดส่วนร้อยละ 30 และสามารถสร้างผลกำไรกลับมาให้บริษัทอย่างน่าประทับใจ โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา สุกี้ตี๋น้อยมีกำไรสุทธิ 913 ล้านบาท ซึ่ง ณ สิ้นปี 66 มีสาขาจำนวนกว่า 55 สาขา โดยในปีที่ผ่านมาบุกต่างจังหวัดมากขึ้น ไปที่โคราช พัทยา และสมุทรปราการเรียบร้อยแล้ว และ (3) บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER และ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ผลงานฟื้นตัวจากสถานการณ์ในปี 2566 ชัดเจน พร้อมสร้าง New S-Curve ใหม่ ด้วย the New Jaymart ที่เน้นด้าน Commerce Tech และ Fintech ควบคู่การบริหารจัดการภายในที่ดี ซึ่งมองว่าจะเป็นการสร้างฐานกำไรที่แข็งแรงในอนาคต
อย่างไรก็ดี ด้วยความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนในการจ่ายชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัทและบริษัทย่อยได้ตามกำหนดภายในปีนี้ ด้วยกระแสเงินสดที่มีในปัจจุบัน